คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การทบทวนกระบวนการพิจารณาคำสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการ ของคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร โดยกระทรวงยุติธรรมได้ร่วมประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว สรุปผลการพิจารณาได้ว่า กรณียกเลิกมาตรา ๑๔๕/๑ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และให้ใช้มาตรา ๑๔๕ (เดิม) โดยมีความเห็นเป็นสองฝ่าย โดยฝ่ายที่หนึ่ง เห็นควรให้มีการทบทวนกระบวนการพิจารณาสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการ ตามมาตรา ๑๔๕/๑ เพื่อให้การทบทวนความเหมาะสมของกระบวนการพิจารณาคำสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการมีความละเอียด รอบคอบ โดยคำนึงถึงกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบ และฝ่ายที่สอง เห็นควรให้คงไว้เพื่อให้มีระบบถ่วงดุลการใช้ดุลพินิจซึ่งกันและกันระหว่างพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการ และให้กระบวนการยุติธรรมทางอาญาของประเทศทั้งในเขตกรุงเทพมหานครและในจังหวัดอื่นเป็นระบบอย่างเดียวกัน ในส่วนการตรวจสอบถ่วงดุลคำสั่งไม่ฟ้องคดีของพนักงานอัยการโดยผู้ว่าราชการจังหวัด ควรเพิ่มเติมคณะกรรมการกลั่นกรองการสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการเพื่อเป็นการส่งเสริมหลักการมีส่วนร่วมของประชาชนและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรมทางอาญาให้การดำเนินคดีอาญาในชั้นการสอบสวนฟ้องร้องมีความรอบคอบและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การจ้างงานข้าราชการภายหลังเกษียณอายุ ๖๐ ปี เพื่อรองรับสังคมสูงวัย ของคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา โดยสำนักงาน ก.พ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พิจารณารายงานและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ แล้ว เห็นด้วยกับข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ โดยเห็นควรให้ชะลอหรือทบทวนการดำเนินงานตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านสังคม ซึ่งควรใช้จ่ายงบประมาณที่มีจำกัดเพื่อให้เกิดการจ้างงานที่จำเป็นและควรพิจารณาดำเนินการให้สอดคล้องกับสถานการณ์เพื่อความยั่งยืนทางการคลัง การจ้างงานเพื่อใช้ศักยภาพข้าราชการเกษียณให้พิจารณาตามความจำเป็นและความต้องการของบุคลากรในแต่ละตำแหน่งหรือสาขา และการศึกษาเพื่อปฏิรูประบบบำเหน็จบำนาญของข้าราชการส่วนท้องถิ่น มีการวิเคราะห์ข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้สอดรับกันต่อไป ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วย