ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 6 จากทั้งหมด 6120 หน้า แสดงรายการที่ 101 - 120 จากข้อมูลทั้งหมด 122389 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
101 | แนวทางการจัดทำงบประมาณและปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 | นร.07 | 22/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแนวทางการจัดทำงบประมาณและปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๙ เพื่อให้หน่วยรับงบประมาณฯ ใช้เป็นแนวทางประกอบการวางแผนการดำเนินงานและกำหนดแผนการปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับการดำเนินงานของรัฐบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
และให้สำนักงบประมาณรับข้อสังเกตของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นควรให้ความสำคัญกับการปรับลดขนาดการขาดดุลงบประมาณควบคู่กับการจัดสรรงบชำระหนี้ของรัฐบาลให้สอดคล้องกับขนาดของมูลหนี้ที่ครบกำหนดชำระ
ทั้งในส่วนของหนี้ของรัฐบาลและหนี้ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจเพื่อดำเนินโครงการของรัฐ
เพื่อลดภาระหนี้ภาครัฐที่อยู่ในระดับสูงและเพิ่มพื้นที่ทางการคลังให้เพียงพอต่อการรองรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
102 | การประชุมคณะผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 8 | มท. | 22/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
103 | การรับรองร่างถ้อยแถลงร่วมการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนที่กำกับดูแลงานด้านวัฒนธรรมและศิลปะ ครั้งที่ 11 ณ เมืองมะละกา มาเลเซีย | วธ. | 22/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างถ้อยแถลงร่วมการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนที่กำกับดูแลงานด้านวัฒนธรรมและศิลปะ
ครั้งที่ ๑๑ “เชื่อมโยงวัฒนธรรม สร้างสรรค์อนาคต : เอกภาพบนความหลากหลาย” (Joint Media Statement the 11th Meeting of the ASEAN Ministers Responsible for Culture and Arts “Bridging Cultures, Building Futures :
Unity in Diversity”) และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมในฐานะรัฐมนตรีอาเซียนที่กำกับดูแลงานด้านวัฒนธรรมและศิลปะแห่งราชอาณาจักรไทย
หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมาย
ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนที่กำกับดูแลงานด้านวัฒนธรรมและศิลปะ
ครั้งที่ ๑๑ ให้การรับรองร่างถ้อยแถลงร่วมฯ ในวันที่
๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๗ ณ เมืองมะละกา มาเลเซีย โดยร่างถ้อยแถลงฯ เป็นการเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของวัฒนธรรมและศิลปะในการส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนและครอบคลุม
เพื่อส่งเสริมความเป็นเอกภาพของอาเซียน โดยระบุถึงประเด็นสำคัญต่าง ๆ เช่น (๑)
ความหลากหลายทางวัฒนธรรมและความสร้างสรรค์เป็นทรัพยากรสำคัญที่สามารถนำมาใช้ในการพัฒนาอาเซียน
(๒)
ความสำคัญของปฏิญญาวังเวียงว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจวัฒนธรรมขนาดกลางและขนาดย่อม
ซึ่งสอดคล้องกับการเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน และ (๓)
ความร่วมมือกับประเทศคู่เจรจาภายใต้แผนงานอาเซียนบวกสามว่าด้วยความร่วมมือด้านวัฒนธรรมและศิลปะ
พ.ศ. ๒๕๖๕ - ๒๕๖๘ เป็นต้น ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างถ้อยแถลงฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงวัฒนธรรมดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
104 | โครงการจัดทำรายงานความโปร่งใสรายสองปี ฉบับที่ 1 และรายงานแห่งชาติ ฉบับที่ 5 รวมกับรายงานความโปร่งใสรายสองปี ฉบับที่ 2 [Thailand's First Biennial Transparency Report (BTR1) and combined Fifth National Communication and Second Biennial Transparency Report (NC5/BTR2)] | ทส. | 22/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างบันทึกความตกลงระหว่างโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติและหน่วยดำเนินงาน
และร่างเอกสารโครงการภายใต้โครงการจัดทำรายงานความโปร่งใสรายสองปี ฉบับที่ ๑ และรายงานแห่งชาติ
ฉบับที่ ๕ รวมกับรายงานความโปร่งใสรายสองปี ฉบับที่ ๒ [Thailand’s First Biennial Transparency Report (BTR1) and combined Fifth National Communication and
Second Biennial Transparency Report (NC5/BTR2)] และให้เลขาธิการสำนักงานโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
และอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม
หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในบันทึกความตกลงฯ โดยร่างความตกลงฯ เป็นข้อตกลงที่จะขอรับการสนับสนุน
จาก UNDP เพื่อให้อำนวยความสะดวกในการดำเนินโครงการจัดทำรายงาน
BTR/NC โดย UNDP จะให้การสนับสนุนและช่วยเหลือในกิจกรรมต่าง
ๆ ของโครงการฯ (เช่น สรรหาบุคลากรอำนวยความสะดวกในกิจกรรมการฝึกอบรม
ส่งรายงานความก้าวหน้าในการสนับสนุนการดำเนินโครงการ) ตามคำขอของประเทศไทย ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความตกลงฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นควรให้ความสำคัญกับการให้ความรู้และสร้างความร่วมมือในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
โดยคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
105 | ผลการประชุมคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ ครั้งที่ 4/2567 และมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 | กค. | 22/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑
รับทราบและเห็นชอบผลการประชุมคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ
ครั้งที่ ๔/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๖๗ และมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ เพื่อให้หน่วยรับงบประมาณและรัฐวิสาหกิจนำมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ
ประจำปีงบประมามาณ พ.ศ. ๒๕๖๘
ไปเป็นแนวทางในการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐต่อไป
รวมทั้งมอบหมายให้กรมบัญชีกลางและสำนักงาน ก.พ.ร. พิจารณาแนวทางประเมินผลการปฏิบัติราชการของหัวหน้าหน่วยงานเจ้าของงบประมาณ
ตามที่คณะกรรมการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐเสนอ ๒.
ให้คณะกรรมการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ หน่วยรับงบประมาณ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสำนักงาน
ก.พ.ร. ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป เช่น กระทรวงการคลัง เห็นควรมีการวางแผนและเตรียมความพร้อมในการดำเนินการ
เช่น การกำหนดคุณลักษณะเฉพาะ หรือขอบเขตของงาน (TOR)
หรือแบบรูปรายการให้มีงวดงานที่เหมาะสมสอดคล้องกับลักษณะงานและการจ่ายเงิน
การลงนามในสัญญา และการบริหารสัญญา
รวมทั้งให้กระทรวงต้นสังกัดและคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ
กำกับติดตามการดำเนินงานของหน่วยรับงบประมาณ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานเจ้าของโครงการที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ใช้เงินกู้และการเบิกจ่ายเงินลงทุนในโครงการอย่างใกล้ชิด
เพื่อให้การเบิกจ่ายและการใช้จ่ายเงินเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด
และมีเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว สำนักงาน ก.พ.ร. เห็นว่ากรมบัญชีกลางควรพิจารณาปรับปรุงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อลดขั้นตอนหรือเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานของหน่วยงานให้มีการเบิกจ่ายที่รวดเร็วเป็นไปตามแผนมากขึ้น
เช่น ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.
๒๕๖๐ ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกเงินจากคลัง การรับเงิน การจ่ายเงิน
การเก็บรักษาเงิน และการนำเงินส่งคลัง พ.ศ. ๒๕๖๒ รวมทั้งดำเนินการตามมาตรา ๑๕
แห่งพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๖๕
เพื่อให้การเบิกจ่ายสามารถดำเนินการในระบบอิเล็กทรอนิกส์
ใช้เอกสารอิเล็กทรอนิกส์แทนการใช้เอกสารฉบับจริงและลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
106 | ผลการประชุมคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ ครั้งที่ 3/2567 | กค. | 22/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ
ครั้งที่ ๓/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๑๒ มิถุนายน ๒๕๖๗
เพื่อให้หน่วยรับงบประมาณและรัฐวิสาหกิจดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ
เพื่อให้การเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐเป็นไปตามเป้าหมาย
และเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศต่อไป ตามที่คณะกรรมการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
107 | ร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง ขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบรายการแสดงการส่งเงินสมทบและการนำส่งเงินสมทบของนายจ้าง และผู้ประกันตนในท้องที่ที่ประสบภัยพิบัติ พ.ศ. .... และร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขให้ลดหย่อนการออกเงินสมทบของนายจ้างและผู้ประกันตนในท้องที่ที่ประสบภัยพิบัติอย่างร้ายแรง พ.ศ. .... | รง. | 22/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบในหลักการ ๑.๑
ร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง ขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบรายการแสดงการส่งเงินสมทบและการนำส่งเงินสมทบของนายจ้าง
และผู้ประกันตนในท้องที่ที่ประสบภัยพิบัติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบรายการแสดงการส่งเงินสมทบของนายจ้างและการนำส่งเงินสมทบของนายจ้างตามมาตรา
๔๗ วรรคสอง และการนำส่งเงินสมทบของผู้ประกันตนตามมาตรา ๓๙ ในท้องที่ที่ประสบภัยพิบัติอย่างร้ายแรงจากวาตภัยและอุทกภัยในงวดเดือนกันยายน
พ.ศ. ๒๕๖๗ ถึงงวดเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๗
เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่นายจ้างและผู้ประกันตน ๑.๒
ร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ให้ลดหย่อนการออกเงินสมทบของนายจ้าง
และผู้ประกันตนในท้องที่ที่ประสบภัยพิบัติอย่างร้ายแรง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการลดหย่อนการออกเงินสมทบกองทุนประกันสังคมของนายจ้าง
ผู้ประกันตน ตามมาตรา ๓๓ และผู้ประกันตนมาตรา ๓๙ ในท้องที่ที่ประสบภัยพิบัติอย่างร้ายแรง
โดยให้การลดหย่อนการออกเงินสมทบมีผลใช้บังคับในงวดเดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๗
ถึงงวดเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ รวม
๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการตรวจสอบท้องที่ที่ประสบภัยพิบัติตามรายงานการประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยและการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน
(กรณีอุทกภัย) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ที่มีเพิ่มเติม
และความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นควรเร่งดำเนินการให้นายจ้างและผู้ประกันตนในท้องที่ดังกล่าวได้รับความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนในลักษณะเช่นเดียวกันนี้ด้วย
ไปประกอบการพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
108 | ผลการประชุมคณะกรรมาธิการประชากรและการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 57 | พม. | 22/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมาธิการประชากรและการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ
สมัยที่ ๕๗ ระหว่างวันที่ ๒๙ เมษายน - ๓ พฤษภาคม ๒๕๖๗ ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมฯ ภายใต้หัวข้อหลัก “การประเมินสถานการณ์ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการของการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยประชากรและการพัฒนา
และผลการดำเนินงานที่นำไปสู่การติดตามและทบทวนวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน
ค.ศ. ๒๐๓๐ ในช่วงทศวรรษแห่งการดำเนินการและมุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน” ซึ่งผลการประชุมฯ มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการยืนยันความมุ่งมั่นในการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการของการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยประชากรและการพัฒนา
ไปขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติต่อไป การดำเนินการเพื่อบรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ต่าง ๆ
ของแผนปฏิบัติการฯ เช่น การลดความยากจน การลดการเสียชีวิตของเด็กและมารดา
การปรับปรุงการเข้าถึงการศึกษาขั้นพื้นฐาน รวมถึงการวางแผนครอบครัว และการสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ
สังคม และสิ่งแวดล้อมในลักษณะบูรณาการ โดยตระหนักถึงความท้าทายที่สำคัญ เช่น
การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอายุประชากร ความยากจน
และวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ที่โลกกำลังเผชิญ ซึ่งทำให้ความเปราะบางและความเหลื่อมล้ำรุนแรงขึ้น
ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
109 | มาตรการเยียวยาเพิ่มเติมเพื่อการ "ฟื้นฟูชีวิต ฟื้นรายได้ ฟื้นเศรษฐกิจ" ของผู้ประสบอุทกภัย | นร.04 | 22/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่กระทรวงการคลังได้จัดทำมาตรการเพื่อช่วยเหลือ
ซ่อมแซม ฟื้นฟูอาคารบ้านเรือนและกิจการ ตลอดจนลดภาระหนี้สิน ลดอัตราดอกเบี้ย
และพักชำระหนี้ให้แก่ผู้กู้ที่ประสบอุทกภัยกลุ่มต่าง ๆ เพื่อการ “ฟื้นฟูชีวิต
ฟื้นรายได้ ฟื้นเศรษฐกิจ” ให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย เช่น โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ
(Soft Loan)
เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ผู้ประกอบการรายย่อย
และผู้ประกอบอาชีพอิสระให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการฟื้นฟูกิจการผ่านธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่เข้าร่วมโครงการ
วงเงินโครงการ ๕๐,๐๐๐ ล้านบาท
โครงการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย
ปี ๒๕๖๗ วงเงินค้ำประกันสินเชื่อรวม ๑,๐๐๐ ล้านบาท
โครงการเพื่อการพักชำระหนี้เงินต้น การขยายระยะเวลาการชำระหนี้ การลดเงินงวด
และการขยายระยะเวลาชำระตั๋วสัญญาใช้เงินของสถาบันการเงินเฉพาะกิจต่าง ๆ นั้น
ขอมอบหมายให้กระทรวงการคลัง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
วาตภัย และดินโคลนถล่ม สถาบันการเงินเฉพาะกิจ กรมประชาสัมพันธ์
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลโครงการ การให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบอุทกภัยดังกล่าวข้างต้นให้ถูกต้อง
ชัดเจน และครบถ้วน เพื่อให้ประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยได้ทราบและสามารถเข้าถึงความช่วยเหลือตามมาตรการเยียวยาเพิ่มเติมดังกล่าวได้ง่ายยิ่งขึ้น
โดยอาจพิจารณาจัดทำเป็นเอกสารคู่มือหรือ infographic ให้เหมาะสมกับแต่ละกลุ่มเป้าหมายด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
110 | รายงานประจำครึ่งปี (กรกฎาคม-ธันวาคม 2566) ของธนาคารแห่งประเทศไทย และรายงานการพิจารณาความเหมาะสมของอัตราการเรียกเก็บเงินนำส่งจากสถาบันการเงินสำหรับปี 2567 | กค. | 22/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
111 | รายงานผลการจัดสถานะการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาไทยตามกฎหมายการค้าสหรัฐฯ มาตรา 301 พิเศษ ประจำปี พ.ศ. 2567 | พณ. | 22/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการจัดสถานะของไทยตามรายงานผลการจัดสถานะการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาไทยตามกฎหมายการค้าสหรัฐอเมริกา
มาตรา ๓๐๑ พิเศษ ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๗ โดยในปี ๒๕๖๗ สหรัฐฯ
ได้จัดให้ไทยอยู่ในบัญชีประเทศที่ต้องจับตามอง
และยังได้จัดทำรายงานรายชื่อตลาดที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาสูง ประจำปี ๒๕๖๗
โดยได้ระบุ MBK Center
เป็นตลาดที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาสูงเพียงแห่งเดียว นอกจากนี้ยังคงมีข้อกังวลเช่นเดียวกับรายงานฯ
ของปี ๒๕๖๖ โดยเฉพาะในการบังคับใช้สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา เช่น การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในภาคเอกชน
การจำหน่ายสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า
และลิขสิทธิ์ในช่องทางออนไลน์ที่มุ่งเน้นบังคับใช้สิทธิกับผู้ประกอบการรายย่อยแทนการมุ่งเป้าไปที่ผู้จำหน่ายรายใหญ่และการผลิต
และการละเมิดลิขสิทธิ์ออนไลน์ผ่านอุปกรณ์หรือแอปพลิเคชันสำหรับการสตรีมและดาวน์โหลด
เป็นต้น ทั้งนี้
ไทยได้เร่งหารือร่างแผนงานด้านทรัพย์สินทางปัญญากับผู้แทนการค้าสหรัฐฯ
อย่างต่อเนื่อง
เนื่องจากเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ไทยหลุดลดจากบัญชีประเทศที่ต้องจับตามองต่อไป ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
112 | แจ้งผลคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ในคดีหมายเลขดำที่ ฟส. 2/2560 คดีหมายเลขแดงที่ ฟส. 1/2567 ระหว่าง นายเอกชัย อิสระทะ ที่ 1 กับพวกรวม 10 คน ผู้ฟ้องคดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมที่ 1 กับพวกรวม 4 คน ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง ขอให้เพิกถอนเขาคูหาออกจากการเป็นพื้นที่แหล่งหินอุตสาหกรรม | นร 05 | 22/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ในคดีหมายเลขดำที่
ฟส.๒/๒๕๖๐ คดีหมายเลขแดงที่ ฟร.๑/๒๕๖๗ ระหว่าง นายเอกชัย อิสระทะ ที่ ๑ กับพวกรวม
๑๐ คน ผู้ฟ้องคดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
ที่ ๑ กับพวกรวม ๔ คน ผู้ถูกฟ้องคดี (คณะรัฐมนตรี ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒)
ซึ่งศาลปกครองสูงสุดพิพากษาเพิกถอนประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง
กำหนดพื้นที่แหล่งหินอุตสาหกรรม ฉบับที่ ๘ ลงวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๔๐
เฉพาะส่วนที่กำหนดให้เขาคูหาเป็นแหล่งหินอุตสาหกรรม ตั้งแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา
คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
113 | รายงานผลการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของประเทศไทย ประจำปี 2566 | พม. | 22/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของประเทศไทยประจำปี
๒๕๖๖ โดยรายงานฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้ ๑) สรุปผลการดำเนินงานฯ ประจำปี ๒๕๖๖
แบ่งออกเป็น ๓ ด้าน ได้แก่ ด้านการดำเนินคดี และบังคับใช้กฎหมาย เช่น
สถิติการดำเนินคดี/ผู้กระทำผิด/ผู้เสียหาย
การปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต ด้านการคุ้มครองช่วยเหลือ
เช่น การคุ้มครองช่วยเหลือผู้เสียหายจากการบังคับใช้แรงงาน
การคุ้มครองช่วยเหลือที่คำนึงถึงบาดแผลทางจิตใจของผู้เสียหาย และด้านการป้องกัน
เช่น การป้องกันการค้ามนุษย์ในกลุ่มเปราะบาง (เด็ก สตรี และขอทาน)
การป้องกันการค้ามนุษย์แรงงานไทยที่ไปทำงานต่างประเทศ/แรงงานต่างด้าวที่ทำงานในไทย
และ (๒) แผนการดำเนินงานในระยะต่อไป เช่น
เพิ่มมาตรการการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการดำเนินการเชิงรุกในการสืบสวนและดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่รัฐที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์และการพิจารณาบทลงโทษต่อผู้กระทำผิดฐานค้ามนุษย์ที่เหมาะสมและเพียงพอ
การพัฒนาล่ามภาษามือเพื่อเพิ่มช่องทางบริการสำหรับผู้ที่มีอุปสรรคในการสื่อสารด้วยภาษา
ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
114 | รายงานผลการดำเนินงานของระบบประกันภัยและพัฒนาการที่สำคัญ รอบ 12 เดือน ปี 2566 | กค. | 22/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานของระบบประกันภัยและพัฒนาการที่สำคัญ
รอบ ๑๒ เดือน (มกราคม - ธันวาคม) ปี ๒๕๖๖
ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ตามนัยสาระสำคัญของเรื่องดังกล่าว
ซึ่งเป็นการดำเนินการตามบทบัญญัติมาตรา ๒๐ (๑๐)
แห่งพระราชบัญญัติคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย พ.ศ. ๒๕๕๐
ซึ่งภาพรวมธุรกิจประกันภัยของไทย รอบ ๑๒ เดือน ปี ๒๕๖๖ ขยายตัวร้อยละ ๓.๗๐ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยมีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรง รวมทั้งสิ้น ๙๑๘,๐๖๗ ล้านบาท ประกอบด้วย เบี้ยประกันภัยจากธุรกิจประกันชีวิต ๖๓๓,๒๐๒ ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ ๓.๖๒ และเบี้ยประกันภัยจากธุรกิจประกันวินาศภัย
๒๘๔,๘๖๖ ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ ๓.๘๘ ทั้งนี้ คาดว่าในปี ๒๕๖๗
ธุรกิจประกันภัยจะมีอัตราการเติบโตร้อยละ ๑.๑๖ ถึง ๓.๑๖ คิดเป็นมูลค่าเบี้ยประกันภัยประมาณ
๙๑๙,๗๖๔ - ๙๕๖,๒๑๕ ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
115 | รายงานผลการดำเนินงาน ฐานะทางการเงิน และงบการเงินของกองทุนบริหารเงินกู้เพื่อการปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะและพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 | กค. | 22/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงาน
ฐานะทางการเงิน และงบการเงินของกองทุนบริหารเงินกู้ เพื่อการปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะและพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ โดยมีผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี ๒๕๕๕ - ๒๕๖๖
กองทุนฯ ได้บริหารเงินที่ได้รับจากการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะ
วงเงินรวม ๑,๓๕๓,๕๔๐.๘๔
ล้านบาท และได้รับผลตอบแทนเพื่อให้กระทรวงการคลังนำไปสมทบการชำระหนี้ จำนวน ๗,๔๕๘.๖๒ ล้านบาท และ
สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบรายงานการเงินของกองทุนฯ แสดงฐานะการเงินของกองทุนฯ
ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๖ และผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกัน ประกอบด้วย
งบแสดงฐานะการเงิน และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน ที่เห็นว่าถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
116 | รายงานผลการดำเนินคดี (แจ้งผลคำสั่งศาลปกครองสูงสุด) ในคดีหมายเลขดำที่ อ. 54/2564 คดีหมายเลขแดงที่ อ.5/2567 ระหว่าง สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ร้อง กับ บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ผู้คัดค้าน | นร.01 | 22/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งศาลปกครองสูงสุดคดีหมายเลขดำที่ อ. ๕๔/๒๕๖๔
คดีหมายเลขแดงที่ อ. ๕/๒๕๖๗ ระหว่าง สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ร้อง กับ
บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ผู้คัดค้าน ซึ่งศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งเพิกถอนกระบวนการพิจารณาที่ให้ส่งสำเนาคำอุทธรณ์ของผู้ร้อง
ให้คู่กรณีในอุทธรณ์จัดทำคำแก้อุทธรณ์
รวมทั้งกระบวนการพิจารณาที่ได้ดำเนินการทั้งหมดตามข้อ ๗ วรรคหนึ่ง
แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง
พ.ศ. ๒๕๔๓ และมีคำสั่งยกอุทธรณ์สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ร้อง
ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
117 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 150 ปี กรมศุลกากร พ.ศ. .... | กค. | 22/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก
๑๕๐ ปี กรมศุลกากร พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ชนิดราคายี่สิบบาท
เพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสครบ ๑๕๐ ปี กรมศุลกากรในวันที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
118 | การประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์อุทกภัย การดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย | นร.04 | 22/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นางสาวธีรรัตน์
สำเร็จวาณิชย์) ประธานคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย
และดินโคลนถล่มส่วนหน้าในพื้นที่จังหวัดเชียงราย (ศปช. ส่วนหน้า) ได้รายงานความคืบหน้าในการดำเนินงานให้ความช่วยเหลือหรือเยียวยาแก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ดังกล่าว
ณ วันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๖๗ ซึ่ง ศปช. ส่วนหน้าได้ดำเนินภารกิจต่าง ๆ
ตามที่ได้รับมอบหมายแล้วเสร็จ ครบถ้วนแล้ว
โดยได้ให้ความช่วยเหลือนำดินโคลนออกจากที่พักอาศัยของประชาชน จำนวน ๘๑๙ ครัวเรือน รวมทั้งการขนย้ายดินโคลนและทำความสะอาดถนนและพื้นที่สาธารณะต่าง
ๆ ที่ใช้ประโยชน์ร่วมกัน
ตลอดจนได้ดำเนินการเพื่อการป้องกันสาธารณภัยอันอาจจะเกิดขึ้นอีกในพื้นที่ดังกล่าวด้วยแล้ว
และกำหนดจะส่งคืนพื้นที่ในความรับผิดชอบแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันที่ ๒๘
ตุลาคม ๒๕๖๗ สำหรับการดำเนินการให้ความช่วยเหลือแก่ครัวเรือนที่ประสบภัยที่เหลืออยู่
จะเป็นการดำเนินการต่อไปในระยะที่ ๒
ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของจังหวัดและหน่วยงานท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง นั้น
เพื่อสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ
และการเข้าถึงการขอรับความช่วยเหลือและเยียวยาประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยที่เกิดขึ้น
ให้ถูกต้อง ชัดเจน จึงขอให้ ศปช. (โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและโฆษก ศปช.)
กระทรวงมหาดไทย กรมประชาสัมพันธ์
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์
เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์อุทกภัย
การดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยที่ได้ดำเนินการแล้วและที่จะดำเนินการต่อไป
ตลอดจนช่องทางการขอรับความช่วยเหลือเยียวยาในเรื่องต่าง ๆ ให้ถูกต้อง ชัดเจน และทั่วถึง
โดยด่วน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
119 | (ร่าง) แผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศกระบวนการยุติธรรม ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2566 - 2569) | ยธ. | 22/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
120 | ร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการ [ร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (เรืออากาศโท ธนเดช เพ็งสุข กับคณะ เป็นผู้เสนอ)] | นร.09 | 22/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้ส่งคืนร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (เรืออากาศโท ธนเดช เพ็งสุข กับคณะ เป็นผู้เสนอ)
ที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการไปยังสภาผู้แทนราษฎรภายในกำหนดเวลา พร้อมให้แจ้งความเห็นของคณะรัฐมนตรีไปด้วยว่า
ร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
ที่เสนอโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรดังกล่าวเป็นการปรับปรุงโครงสร้าง
การบริหารราชการของกระทรวงกลาโหม และองค์ประกอบของสภากลาโหม
ซึ่งเป็นการปรับปรุงในเชิงหลักการที่ควรพิจารณาโดยรอบคอบ ประกอบกับขณะนี้กระทรวงกลาโหมได้เสนอร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่ผ่านการพิจารณาของสภากลาโหมแล้ว
จึงเห็นควรชะลอร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
ที่เสนอโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (เรืออากาศโท ธนเดช เพ็งสุข กับคณะ เป็นผู้เสนอ)
เพื่อรอร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
ของคณะรัฐมนตรีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อพิจารณาไปพร้อมกันต่อไป
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ
|