ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 9 จากทั้งหมด 5981 หน้า แสดงรายการที่ 161 - 180 จากข้อมูลทั้งหมด 119611 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
161 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ (รองศาสตราจารย์พันธุ์ทิพย์ สายสุนทร) | นร.01 | 04/04/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
รองศาสตราจารย์พันธุ์ทิพย์ สายสุนทร เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
(ด้านการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน) ในคณะกรรมการการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์
แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากขอลาออก โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๔ เมษายน ๒๕๖๖) เป็นต้นไป
และผู้ได้รับแต่งตั้งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว
ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
162 | การสิ้นสุดหน้าที่ของ นายอาร์มันด์ โยสต์ กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส และการปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส เป็นการชั่วคราว | กต. | 04/04/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑. การสิ้นสุดหน้าที่ของ
นายอาร์มันด์ โยสต์ (Mr. Armand Jost) กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ตั้งแต่วันที่ ๒๐
มิถุนายน ๒๕๖๕ เนื่องจากขอลาออกจากตำแหน่ง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
163 | รายงานผลการพิจารณาในภาพรวมต่อข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน กรณีสิทธิมนุษยชนของแรงงานข้ามชาติกับสถานการณ์การลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย | สม. | 28/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
กรณีสิทธิมนุษยชนของแรงงานข้ามชาติกับสถานการณ์การลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ซึ่งกระทรวงแรงงานได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยมีผลสรุปในภาพรวมว่า
ข้อเสนอในระยะสั้นกระทรวงแรงงานได้สำรวจความต้องการแรงงานข้ามชาติของผู้ประกอบการ
และได้ประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการปรับลดค่าธรรมเนียมใบอนุญาตแล้ว
โดยที่ประชุมเห็นว่า หากมีการปรับลดค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงานจะส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการกองทุนเพื่อบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว
ควรให้คงค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงานในอัตราเดิม
รวมทั้งได้ปรับลดมาตรการการนำเข้าแรงงานต่างด้าวตาม MOU ให้มีความสะดวกและรวดเร็ว
โดยให้เพิ่มช่องทางการเดินทางระหว่างประเทศทางอากาศ และเห็นชอบในหลักการปรับลดค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา
(VISA) จาก ๒,๐๐๐ บาท เหลือ ๕๐๐ บาท
นอกจากนี้
กระทรวงแรงงานได้แก้ไขปัญหาการนำเข้าแรงงานต่างด้าวให้มีกระบวนการขั้นตอนที่สะดวกและรวดเร็วตามมาตรฐานสากล
ส่วนข้อเสนอแนะในระยะยาวกระทรวงแรงงานได้ร่วมลงนามใน MOU กับประเทศคู่ภาคี
(กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) เพื่อแก้ปัญหาการลักลอบนำเข้าแรงงานผิดกฎหมาย ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
และแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
164 | รายงานสรุปผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน กรณีปัญหาการจัดการที่ดินของหน่วยงานของรัฐ | สม. | 28/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
กรณีปัญหาการจัดการที่ดินของหน่วยงานของรัฐ ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ซึ่งได้ประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว เมื่อวันที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๖๕
โดยมีผลสรุปในภาพรวมว่า ให้คงคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๓๑/๒๕๖๐
เรื่องการใช้ที่ดินเพื่อเกษตรกรรมตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่เกษตรกรและประโยชน์สาธารณของประเทศ
ลงวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๖๐ ไว้
โดยให้ใช้เฉพาะในบางพื้นที่และเป็นกิจการที่ได้รับอนุญาตก่อนวันที่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติดังกล่าวมีผลบังคับใช้เท่านั้น
และให้การแก้ไขปัญหาพื้นที่ทับซ้อนระหว่างป่าสงวนแห่งชาติกับพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินเป็นกรณีที่ควรดำเนินการเร่งด่วน
ทั้งนี้
ให้แต่ละหน่วยงานคำนึงถึงผลกระทบและการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบนั้นด้วย
รวมทั้งให้ดำเนินการตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่องเสร็จที่ ๘๕๑/๒๕๕๕
อย่างเคร่งครัด ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
และแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
165 | การดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเรื่อง ระบบการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทาง (Ease of Traveling) | กก. | 28/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเรื่อง
ระบบการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทาง (Ease of Traveling)
โดยมีข้อเสนอเพื่อผลักดันระบบให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยการดำเนินการพัฒนาระบบการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้เดินทางตัดสินใจเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น
โดยมีผลต่อการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเข้าสู่ประเทศ ดังนั้น
เมื่อมีการดำเนินการให้เป็นไปตามแผนการดำเนินการปี ๒๕๖๕-๒๕๖๗
ควรมีการขยายผลโดยการวิเคราะห์ความพึงพอใจ พฤติกรรมและความต้องการของนักท่องเที่ยว
ที่สอดคล้องกับทิศทางและการคาดการณ์ด้านการท่องเที่ยวในอนาคตและจัดทำแผนการดำเนินการในปีต่อ
ๆ ไป
เพื่อพัฒนาระบบการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางให้ตอบสนองพฤติกรรมและความต้องการของนักท่องเที่ยวให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
และการสร้างการรับรู้ให้แก่ผู้เดินทางหรือนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับระบบการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางถือเป็นเรื่องที่สำคัญเนื่องจากจะทำให้ผู้เดินทางหรือนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้ระบบการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางมากขึ้น
จึงอาจมีความจำเป็นที่จะต้องสร้างการรับรู้ด้วยการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ประชาชน
ผู้ประกอบการ หน่วยงานของรัฐ ควบคู่ไปกับการพัฒนาระบบให้ดียิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
166 | รายงานประจำปี 2565 ของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | ศธ. | 28/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี ๒๕๖๕ ของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
(สสวท.) สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ (๑) ผลการดำเนินงานของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ประจำปี ๒๕๖๕ เช่น การพัฒนาเครื่องมือที่เป็นกรอบการประเมินและข้อสอบวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์สำหรับคัดเลือกนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายเข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา
ปีการศึกษา ๒๕๖๕ (TCAS 65) การพัฒนาครูผู้สอนวิทยาศาสตร์
คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีและบุคลากรทางการศึกษาในโรงเรียน
โครงการพระราชดำริให้แก่ครูโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน จำนวน ๖๐๘ คน
การบริหารการผลิตครูที่มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ (สควค.)
โดยบรรจุผู้รับทุนโครงการ สควค. ที่สำเร็จการศึกษาในตำแหน่งครูผู้ช่วย จำนวน ๙๒๘
คน และการประชาสัมพันธ์เชิงรุกเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในการทำงานของ สสวท.
และสร้างความตระหนักรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ เช่น จัดเทศกาลภาพยนต์วิทยาศาสตร์ในหัวข้อ
“สุขภาพที่ดีจากความเข้าใจที่มากขึ้น” ให้ได้รับชมฟรี และ (๒)
รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินของ สสวท. สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน
๒๕๖๕ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะทางการเงิน และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน
ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้ว
เห็นว่าถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
167 | แจ้งผลคำพิพากษาศาลปกครองกลาง ในคดีหมายเลขดำที่ ส.88/2561 คดีหมายเลขแดงที่ ส.9/2566 ระหว่างเครือข่ายวางแผนและผังเมืองเพื่อสังคม ที่ 1 กับพวกรวม 12 คน ผู้ฟ้องคดี คณะรัฐมนตรี ที่ 1 กับพวกรวม 4 คน ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย (การดำเนินโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา) | อส. | 28/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลคำพิพากษาศาลปกครองกลาง ในคดีหมายเลขดำที่ ส.๘๘/๒๕๖๑ คดีหมายเลขแดงที่ ส.๙/๒๕๖๖ ระหว่างเครือข่ายวางแผนและผังเมืองเพื่อสังคม ที่ ๑ กับพวกรวม ๑๒ คน
ผู้ฟ้องคดี คณะรัฐมนตรี ที่ ๑ กับพวกรวม ๔ คน ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง
คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
(การดำเนินโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา) โดยไม่ยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาของศาลปกครองกลางในส่วนของคณะรัฐมนตรี
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ต่อไป ตามความเห็นของสำนักงานคดีปกครอง สำนักงานอัยการสูงสุด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
168 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงเเบนรีดร้อน สำหรับงานโครงสร้างเครื่องจักรกลต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... | อก. | 28/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงเเบนรีดร้อน
สำหรับงานโครงสร้างเครื่องจักรกลต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงแก้ไขมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อน
เนื่องจากมาตรฐานบังคับดังกล่าวใช้มาเกิน ๕ ปีแล้ว
และเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานอ้างอิง การพัฒนาเทคโนโลยี
การทำและการใช้ภายในประเทศ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
169 | ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนโคกกลอย - ท้ายเมือง จังหวัดพังงา พ.ศ. .... | มท. | 28/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนโคกกลอย-ท้ายเมือง จังหวัดพังงา
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลท้ายเหมือง
ตำบลนาเตย อำเภอท้ายเหมือง และตำบลโคกลอย ตำบลหล่อยูง และตำบลท่าอยู่
อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา
เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท
ในด้านการใช้ประโยชน์ การคมนาคมและขนส่ง การสาธารณูปโภค การบริการสาธารณะ
และสภาพแวดล้อม ให้สอดคล้องกับการพัฒนาระบบเศรษฐกิจและสังคมเพื่อจัดระบบและควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินส่งเสริมการพัฒนาด้านที่อยู่อาศัยและพาณิชยกรรมให้สอดคล้องกับการขยายตัวของชุมชนระบบเศรษฐกิจ
ส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกรรม และการประมงให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่
และดำรงรักษาเอกลักษณ์ วิถีชีวิตดั้งเดิมของชุมชน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย กฎหรือระเบียบ
และความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาล เกิดผลสัมฤทธิ์
หรือประโยชน์ต่อภาครัฐและประชาชนเป็นสำคัญ หากมีการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อกิจการใด
ๆ ในบริเวณย่านชุมชนเก่า ควรคำนึงถึงความสอดคล้องและส่งเสริมการอนุรักษ์
รักษาอัตลักษณ์ของย่านชุมชนเก่าให้อยู่ด้วย การพิจารณาอนุญาตกิจการต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อการดำรงชีวิตที่ปกติสุขของประชาชน
และเป็นไปตามกฎกระทรวงควบคุมสถานประกอบกิจการที่เป็นอัตรายต่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๖๐
เมื่อผังเมืองรวมชุมชนฉบับนี้มีผลใช้บังคับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรกำกับดูแลการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เป็นไปตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
170 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อน ทนแรงดึงสูงที่ปรับปรุงสมบัติการขึ้นรูป สำหรับงานโครงสร้างรถยนต์ ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... | อก. | 28/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อน
ทนแรงดึงสูงที่ปรับปรุงสมบัติการขึ้นรูป สำหรับงานโครงสร้างรถยนต์
ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงแก้ไขมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อน
ทนแรงดึงสูงที่ปรับปรุงสมบัติการขึ้นรูป สำหรับงานโครงสร้างรถยนต์
เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานอ้างอิงการพัฒนาเทคโนโลยี
รวมทั้งการทำและการใช้ภายในประเทศมากยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
171 | ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนไพศาลี จังหวัดนครสวรรค์ พ.ศ. .... | มท. | 28/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง
การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนไพศาลี จังหวัดนครสวรรค์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลไพศาลี และตำบลโคกเดื่อ อำเภอไพศาลี จังหวัดนครสวรรค์
เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาชุมชน ให้เป็นเมืองศูนย์กลางการบริหารการปกครอง
เศรษฐกิจและสังคม การดำรงรักษาเมือง และพื้นที่ชนบทและเกษตรกรรม
และเป็นศูนย์กลางการผลิต การซื้อขายพืชไร่ ด้านตะวันออกของจังหวัดนครสวรรค์
โดยการจัดการด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ
และสภาพแวดล้อมในบริเวณพื้นที่ภายในเขตผังเมืองรวมชุมชนไพศาลี จังหวัดนครสวรรค์
ให้สอดคล้องกับการพัฒนาระบบเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย
กฎหรือระเบียบ และความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาล เกิดผลสัมฤทธิ์
หรือประโยชน์ต่อภาครัฐและประชาชนเป็นสำคัญ การใช้ประโยชน์ที่ดินตามร่างประกาศกระทรวงดังกล่าว
ควรคำนึงถึง กฎ
ระเบียบที่เกี่ยวข้องในการใช้ประโยชน์ที่ดินด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วย
การพิจารณาอนุญาตให้ดำเนินกิจการต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อการดำรงชีวิตที่ปกติสุขของประชาชน
และเป็นไปตามกฎกระทรวงควบคุมสถานประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๖๐
เมื่อผังเมืองรวมชุมชนฉบับนี้มีผลใช้บังคับ ควรกำกับดูแลการประกอบกิจการโรงงานให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
172 | รายงานความเสี่ยงทางการคลังประจำปีงบประมาณ 2565 | กค. | 28/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความเสี่ยงทางการคลังประจำปีงบประมาณ
๒๕๖๕ ซึ่งเป็นรายงานความเสี่ยงทางการคลังประจำปี เพื่อแสดงผลการประเมินความเสี่ยงที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากผลกระทบของเศรษฐกิจมหภาค
ระบบการเงิน นโยบายของรัฐบาล และผลการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐ
ที่อาจก่อให้เกิดภาระทางการคลังของรัฐบาล และแนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยง
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
173 | รายงานการเงินรวมภาครัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 | กค. | 28/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบรายงานการเงินรวมภาครัฐ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ และบทวิเคราะห์รายงานการเงินรวมภาครัฐ ประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๕ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน
และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงินของรัฐบาล หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน ๘,๔๒๔ หน่วยงาน จากจำนวนทั้งหมด ๘,๔๔๓
หน่วยงาน คิดเป็นร้อยละ ๙๙.๙๗
โดยมีหน่วยงานของรัฐที่ไม่ส่งรายงานการเงินภายในระยะเวลาตามมาตรา ๗๐ จำนวน ๕๖
หน่วยงาน คิดเป็นร้อยละ ๐.๖๖ ประกอบด้วย
หน่วยงานของรัฐที่ส่งรายงานการเงินภายในระยะเวลาที่กำหนด จำนวน ๓๗ หน่วยงาน และหน่วยงานของรัฐที่ไม่ส่งรายการเงิน
จำนวน ๑๙ หน่วยงาน และให้หน่วยงานของรัฐที่ไม่ส่งรายงานการเงินประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๕ ส่งรายงานการเงินประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕
พร้อมทั้งรายงานเหตุผลหรือปัญหา อุปสรรค
และแนวทางแก้ไขให้กระทรวงเจ้าสังกัดและกระทรวงการคลังภายใน ๖๐ วัน
นับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
และให้หน่วยงานของรัฐส่งรายงานการเงินประจำปีงบประมาณถัดไปให้ทันภายในระยะเวลาที่กำหนด
เพื่อให้การจัดทำรายงานการเงินรวมภาครัฐมีความครบถ้วนสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
ที่เห็นควรเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด
รวมทั้งหน่วยงานที่มีเงินได้มากกว่าที่มีการใช้จ่ายจริง หรือมีเงินสะสมคงเหลือ
โดยให้นำเงินดังกล่าวมาใช้จ่ายเป็นลำดับแรก หรือสมทบกับเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีในการดำเนินงานตามภารกิจของหน่วยงาน
ตลอดจนควรทบทวนการขอรับจัดสรรงบประมาณเท่าที่จำเป็น โดยคำนึงถึงความคุ้มค่า
ความเหมาะสม และประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
174 | ความก้าวหน้าของยุทธศาสตร์ชาติ ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2566 | นร.11 สศช | 28/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความก้าวหน้าของยุทธศาสตร์ชาติ ประจำเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ ซึ่งมีผลการดำเนินงานที่สำคัญ
เช่น (๑) ความก้าวหน้าในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติสู่การปฏิบัติ (๒)
การดำเนินการของหน่วยงานของรัฐในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ :
ความก้าวหน้าการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและการพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
(๓) การติดตาม การตรวจสอบ และประเมินผลการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ (๔)
ประเด็นที่ควรเร่งรัดเพื่อการบรรลุเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ และ (๕) นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและการปฏิรูปประเทศของรัฐบาลรวมถึงสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะกรรมการปฏิรูปประเทศให้ประชาชนทราบต่อไป ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ในฐานะสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะกรรมการปฏิรูปประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
175 | รายงานสรุปผลการพิจารณาข้อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีกรณีกล่าวอ้างว่าได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุไม่ครบถ้วน | สนง. กสม. | 28/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการพิจารณาข้อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีกรณีกล่าวอ้างว่าได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุไม่ครบถ้วน
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วเมื่อวันที่ ๓๐ มกราคม
๒๕๖๖ โดยมีผลสรุปในภาพรวมว่า ที่ประชุมได้มอบหมายให้กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
จัดทำข้อมูลทะเบียนราษฎรของผู้สูงอายุเป็นการล่วงหน้าเพื่อใช้เป็นข้อมูลให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุให้เพียงพอและครบถ้วนต่อไป
ส่วนการปรับอัตราการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบขั้นบันไดตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๔ ควรปรับ ณ วันที่ผู้สูงอายุครบในเดือนนั้นทันที
และได้มอบหมายให้กรมกิจการผู้สูงอายุเร่งรัดการกำหนดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเพื่อประกอบการพิจารณาแก้ไขระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
พ.ศ. ๒๕๕๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติมต่อไป ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
176 | นายกรัฐมนตรีลากิจในวันที่ 1 มีนาคม 2566 และ 23 มีนาคม 2566 | นร. | 28/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งว่า
นายกรัฐมนตรีได้ลากิจในวันพุธที่ ๑ มีนาคม ๒๕๖๖ ตั้งแต่เวลา ๘.๓๐-๑๐.๐๐ น.
และวันพฤหัสบดีที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๖๖ ตั้งแต่เวลา ๑๓.๐๐ น. เป็นต้นไป
ซึ่งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้จัดทำหนังสือเวียนแจ้งให้รัฐมนตรีทุกท่านทราบแล้ว
ทั้งนี้ ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ. ๒๕๕๕ ข้อ ๔๑
กำหนดในการลาทุกประเภทของนายกรัฐมนตรีให้อยู่ในดุลยพินิจของนายกรัฐมนตรี
และแจ้งให้คณะรัฐมนตรีทราบ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
177 | ขอความเห็นชอบให้ข้าราชการทุกประเภท พนักงานราชการ ลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราวของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ลาเข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบท 97 รูป ถวายพระกุศล สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ 8 รอบ 26 มิถุนายน 2566 โดยไม่ถือเป็นวันลา | นร.01 | 28/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ข้าราชการทุกประเภท
พนักงานราชการ ลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราวส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ
และพนักงานรัฐวิสาหกิจ ลาเข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบท ๙๗ รูป ถวายพระราชกุศล สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๘ รอบ ๒๖ มิถุนายน
๒๕๖๖ โดยไม่ถือเป็นวันลา เสมือนเป็นการปฏิบัติราชการและได้รับเงินเดือนตามปกติ
ระหว่างวันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๖๖-๑ กรกฎาคม ๒๕๖๖ ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
ทั้งนี้ ในส่วนของพนักงานรัฐวิสาหกิจ
ให้รัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งพิจารณาดำเนินการให้เป็นไปตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของพนักงานรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่ง
เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามความเห็นของกระทรวงการคลังด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
178 | แนวทางการรณรงค์ เพื่อสืบสานคุณค่าทางวัฒนธรรม เนื่องในประเพณีสงกรานต์ พุทธศักราช 2566 ภายใต้แนวคิด "สืบสานสงกรานต์วิถีไทย ร่วมสานใจ สู่สากล" | วธ. | 28/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางการรณรงค์
เพื่อสืบสานคุณค่าทางวัฒนธรรม เนื่องในประเพณีสงกรานต์ พุทธศักราช ๒๕๖๖ ภายใต้แนวคิด
"สืบสานสงกรานต์วิถีไทย ร่วมสานใจ สู่สากล"
ซึ่งประกอบด้วยแนวทางและมาตรการในการจัดกิจกรรมภาพรวมของประเทศรวม ๙ ข้อ
ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ดังนี้ ๑. ขอความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน
และประชาชน ร่วมกันจัดกิจกรรมประเพณีสงกรานต์
มุ่งเน้นสืบสานคุณค่าของประเพณีอันดีงาม
พร้อมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สู่การรับรู้ของชาวต่างชาติ ๒. ส่งเสริมให้จังหวัดต่าง ๆ ใช้พื้นที่จัดกิจกรรมทางศาสนาและวัฒนธรรมในประเพณีสงกรานต์ร่วมกับสืบสานประเพณีที่ดีงาม
เหมาะสม ๓. รณรงค์ให้ประชาชนร่วมกันสืบสานคุณค่าสาระและสิ่งที่ควรทำของประเพณีสงกรานต์
เช่น การทำความสะอาดบ้านเรือน วัด ศาสนสถานที่นับถือ สถานที่สาธารณะ ทำบุญตักบาตร
ปฏิบัติธรรม ฟังเทศน์ สรงน้ำพระพุทธรูป ขอพรผู้สูงอายุ ๔. รณรงค์ให้แต่งกายที่สร้างภาพลักษณ์ความเป็นไทย
เช่น ผ้าไทย ผ้าท้องถิ่น ชุดไทยย้อนยุค หรือชุดสภาพ เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ
เพื่อสร้างการรับรู้ถึงอัตลักษณ์ความเป็นไทยต่อชาวต่างชาติ ๕. ขอความร่วมมือหน่วยงานต่าง ๆ
สนับสนุนศิลปินพื้นบ้านในการจัดกิจกรรม การละเล่น และการแสดงทางวัฒนธรรม
ประเพณีท้องถิ่น ตามแนวทางมาตรการประเพณีสงกรานต์ พุทธศักราช ๒๕๖๖
เพื่อเป็นการถ่ายทอดมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่ถูกต้องเหมาะสม
และร่วมกันเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม ๖. หน่วยงานด้านความมั่นคง ความปลอดภัย
และด้านบริการประชาชน ให้รักษามาตรการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด
เพื่อให้สงกรานต์เป็นช่วงเวลาที่สร้างความสุข ประชาชน
และนักท่องเที่ยวมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ๗.
ขอความร่วมมือประชาชนที่ใช้ยานพาหนะและใช้ถนนให้ปฏิบัติตามกฎหมาย
กฎจราจรอย่างเคร่งครัด รวมถึงช่วยสอดส่อง หรือแจ้งเจ้าหน้าที่ในกรณีพบเห็นผู้ที่ปฏิบัติไม่เหมาะสม ๘. การจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม ๖๐๘
(กลุ่มเสี่ยง) ให้รักษามาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และโรคทางเดินหายใจ ควรมีอุปกรณ์ป้องกันเพื่อสุขอนามัยที่ดีของผู้เข้าร่วมงาน ๙. ส่งเสริมภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชน
ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประเพณีสงกรานต์ในระดับท้องถิ่น ระดับประเทศ และนานาชาติ
ในโอกาสที่สงกรานต์ในประเทศไทย เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ
ที่เข้าสู่การพิจารณาของยูเนสโก
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
179 | รัฐบาลรัฐปาเลสไตน์เสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งรัฐปาเลสไตน์ประจำประเทศไทย (นายวะลีด อะบู อะลี) | กต. | 28/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายวะลีด อะบู อะลี (Mr. Walid Abu Ali) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งรัฐปาเลสไตน์ประจำประเทศไทยคนใหม่
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย สืบแทน นายอัลวัร เอช. อัลอาฆอ (Dr.
Anwar H. Al-Agha) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
180 | การสิ้นสุดหน้าที่ของกงสุลกิตติมศักดิ์ราชอาณาจักรสวีเดนประจำจังหวัดภูเก็ต และการแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์ราชอาณาจักรสวีเดน ณ จังหวัดภูเก็ต คนใหม่ (นายสมบูรณ์ จิรายุส) | กต. | 28/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.
รับทราบการสิ้นสุดหน้าที่ของ นายกองเกียรติ
เกษเพ็ชร์ กงสุลกิตติมศักดิ์ราชอาณาจักรสวีเดน ประจำจังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒
เนื่องจากขอลาออกจากตำแหน่ง
|