ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 7 จากทั้งหมด 6226 หน้า แสดงรายการที่ 121 - 140 จากข้อมูลทั้งหมด 124513 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 121 | ร่างกรอบการเจรจาสำหรับการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย - กัมพูชา สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2/2568 | กห. | 21/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างกรอบการเจรจาสำหรับการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ ครั้งที่ ๒ ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ ๒๓ ตุลาคม
๒๕๖๘ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย โดยร่างกรอบเจรจาสำหรับการประชุมฯ มีองค์ประกอบสำคัญในประเด็นที่จะร่วมดำเนินการต่อไป
ได้แก่ ๑) การลดระดับความตึงเครียดทางทหาร ๒) ขอบเขตการปฏิบัติงาน (Terms
of Reference : TOR) ของคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน
(ASEAN Observer Team : AOT) ๓)
การเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม ๔) การต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ ๕)
การบริหารจัดการพื้นที่ชายแดน และ ๖) ประเด็นการส่งคืนเชลยศึก ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างกรอบการเจรจาสำหรับการประชุมฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงกลาโหมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว
และหากในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ ที่ ๒/๒๕๖๘
จะต้องมีการลงนามในเอกสารหรือบันทึกการประชุมร่วมกัน ซึ่งมีสาระสำคัญอยู่ภายใต้กรอบเจรจาที่ได้รับความเห็นชอบไว้แล้วข้างต้น
ก็ให้กระทรวงกลาโหมสามารถพิจารณาดำเนินการต่อไปได้ ๒.ในกรณีจำเป็นเพื่อเป็นการรักษาประโยชน์สำคัญของประเทศ
หากในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ ครั้งที่ ๒/๒๕๖๘
จะต้องมีการลงนามในเอกสารหรือบันทึกการประชุมร่วมกัน
ซึ่งมีสาระสำคัญแตกต่างไปจากกรอบการเจรจาข้างต้น
ให้นายกรัฐมนตรีร่วมประชุมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเพื่อมีมติของคณะรัฐมนตรีในเรื่องนั้นและดำเนินการไปได้
และเมื่อมีการประชุมเป็นกรณีปกติให้นายกรัฐมนตรีแจ้งให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีทราบมติของคณะรัฐมนตรีดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ ตามมาตรา ๘ วรรคสอง แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี
พ.ศ. ๒๕๔๘
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 122 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงมหาดไทย) | มท. | 21/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการ จำนวน ๖
คณะ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๖๘ เป็นต้นไป
ดังนี้ ๑. คณะกรรมการพิจารณาตั้งกิ่งอำเภอและอำเภอ ๒. คณะกรรมการพิจารณาอนุญาตให้ดูดทราย ๓.
คณะกรรมการพิจารณาเรื่องการขอเปลี่ยนแปลงชื่อจังหวัด อำเภอ และตำบล หมู่บ้าน
หรือสถานที่ราชการอื่น ๆ ๔. คณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายของกระทรวงมหาดไทย
คณะที่ ๒ ๕. คณะกรรมการอำนวยการโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเศรษฐกิจแบบพอเพียงเฉลิมพระเกียรติ ๖. คณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายของกระทรวงมหาดไทย
คณะที่ ๑
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 123 | การขอความเห็นชอบต่อร่างขอบเขตอำนาจหน้าที่ของคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน | กห. | 21/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างขอบเขตอำนาจหน้าที่ของคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน
และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมาย
ลงนามในร่างขอบเขตอำนาจหน้าที่ของคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน โดยร่างขอบเขตอำนาจหน้าที่ฯ
มีสาระสำคัญเป็นการระบุขอบเขตอำนาจหน้าที่ของคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน
ซึ่งจัดตั้งขึ้นตามผลของการประชุมสมัยพิเศษ เมื่อ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๘ ณ เมืองปุตราจายา
มาเลเซีย โดยคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนจะดำเนินการภายใต้อาณัติ (mandate) ที่ได้รับจากที่ประชุม GBC ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ เมื่อ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๘
และตามที่ได้รับคำเชิญจากรัฐบาลไทยและกัมพูชา ซึ่งร่างขอบเขตอำนาจหน้าที่ฯ ไม่มีถ้อยคำหรือบริบทใดที่มุ่งจะก่อให้เกิดพันธกรณีภายใต้บังคับของกฎหมายระหว่างประเทศ
กอปรกับไทยและกัมพูชามีเจตนารมณ์ชัดแจ้งว่าร่างขอบเขตอำนาจหน้าที่ฯ ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย
จึงไม่เป็นสนธิสัญญาภายใต้บังคับของกฎหมายระหว่างประเทศ ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ
และให้กระทรวงกลาโหมรับข้อสังเกตของเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่เห็นควรกำหนดให้ชัดเจนว่า
การที่คณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนของแต่ละฝ่ายจะเข้าไปในพื้นที่พิพาท
ต้องแจ้งให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรก่อน
เพื่อมิให้เกิดการกระทบกระทั่งกันดังเช่นที่เคยเกิดขึ้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนร่างขอบเขตอำนาจหน้าที่ฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงกลาโหมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 124 | การแต่งตั้งประธานกรรมการในคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม (นายพงศธร พอกเพิ่มดี) | สธ. | 21/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้คณะกรรมการองค์การเภสัชกรรมมีจำนวนกรรมการเกินกว่าสิบเอ็ดคนแต่ไม่เกินสิบห้าคน
(นับรวมประธานกรรมการ กรรมการอื่นที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง
และผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรมซึ่งเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง) ตามมาตรา ๑๘
แห่งพระราชบัญญัติองค์การเภสัชกรรม พ.ศ. ๒๕๐๙ และมาตรา ๖
วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.
๒๕๑๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และแต่งตั้ง นายพงศธร พอกเพิ่มดี
(ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข) เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม
แทนประธานกรรมการเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากขอลาออก
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๘) เป็นต้นไป และผู้ที่ได้รับแต่งตั้งเข้าแทนนี้ย่อมอยู่ในตำแหน่งได้เพียงเท่ากำหนดเวลาของผู้ซึ่งตนแทน
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ทั้งนี้
ได้ยกเลิกชั้นความลับนับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๘)
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 125 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายบุญชอบ วิเศษปรีชา) | กค. | 21/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นายบุญชอบ วิเศษปรีชา ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งรองอธิบดีกรมธนารักษ์
ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการบริหารเหรียญกษาปณ์และทรัพย์สินมีค่า (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง
ตั้งแต่วันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๘ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 126 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง (1. นายนพดล เฮงเจริญ ฯลฯ รวม 9 คน) | นร.09 | 21/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
รวม ๙ คน
เนื่องจากประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๘) เป็นต้นไป
ตามที่สำนักเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ ดังนี้ ๑. นายนพดล เฮงเจริญ ประธานกรรมการ ๒. นายกฤษฎา บุณยสมิต กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๓. นายชาญชัย แสวงศักดิ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๔. นายต่อพงศ์ กิตติยานุพงศ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๕. นายนันทวัฒน์ บรมานันท์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๖. นายนิพนธ์ ฮะกีมี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๗. นายประสงค์ วินัยแพทย์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๘. นายสุรพล นิติไกรพจน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๙. นายฤทัย หงส์สิริ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 127 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางวรสุดา รัตนสุคนธ์) | มท. | 21/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางวรสุดา รัตนสุคนธ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งผู้ช่วยปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ
(นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงมหาดไทย
ตั้งแต่วันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๘ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 128 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นางเพ็ญนภา กัญชนะ) | อว. | 21/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางเพ็ญนภา กัญชนะ
ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งรองเลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ
ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
ทั้งนี้ ได้ยกเลิกชั้นความลับนับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๘)
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 129 | ขอยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีกรณีการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญเฉพาะราย (นายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง) และการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง | มท. | 21/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอ
ดังนี้ ๑. ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๖๘
[เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง
(นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ฯลฯ จำนวน ๔๕ ราย] เฉพาะราย นายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง ๒. แต่งตั้ง นายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง
ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร สำนักงานปลัดกระทรวง
ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดตาก สำนักงานปลัดกระทรวง เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 130 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายธิติ แสวงธรรม ฯลฯ จำนวน 3 ราย) | สธ. | 21/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๓ ราย
เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
ดังนี้ ๑. นายธิติ แสวงธรรม ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายวิทิต สฤษฎีชัยกุล ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายอดิสรณ์ วรรธนะศักดิ์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 131 | รายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ประจำปี 2567 | กสทช. | 21/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง
กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ประจำปี ๒๕๖๗
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์
และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑. ผลการปฏิบัติงานที่สำคัญของ กสทช. ประจำปี ๒๕๖๗
เช่น การจัดทำแผนการจัดสรรคลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากลของไทย (พ.ศ.
๒๕๖๗ - ๒๕๗๑) และการศึกษาแนวทางการบริการเตือนภัยพิบัติหรือเหตุฉุกเฉิน เป็นต้น ๒. นโยบาย แผนการดำเนินงาน และงบประมาณประจำปี ๒๕๖๘
ซึ่ง กสทช. และ สำนักงาน กสทช. มีนโยบายและแผนงาน เช่น
การมีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานทั่วถึง และการพัฒนาหลักเกณฑ์และมาตรการคุ้มครองผู้บริโภค
โดย กสทช. มีมติในคราวประชุม ครั้งที่ ๔/๒๕๖๘ เมื่อวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๖๘
อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๖๘ ของสำนักงาน กสทช. จำนวน ๕,๖๓๕.๔๒ ล้านบาท แล้ว ๓. งบการเงินและรายงานของผู้สอบบัญชี
รายงานการตรวจสอบภายในประจำปี ๒๕๖๗ ของ สำนักงาน กสทช. ซึ่งผ่านการตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแล้ว
โดยคณะกรรมการตรวจสอบภายในสำนักงาน กสทช. เห็นว่า การดำเนินงานโดยรวมมีความโปร่งใส
การจัดทำและใช้จ่ายงบประมาณเป็นไปตามกฎหมายและแผนงาน ๔. ปัญหาและอุปสรรคในการประกอบกิจการ เช่น ความไม่เท่าเทียมในด้านการกำกับดูแลกิจการโทรทัศน์ในรูปแบบดั้งเดิม
กับบริการผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันไปใช้สื่อดิจิทัล ๕. คุณภาพการให้บริการและอัตราค่าบริการโทรคมนาคม
ซึ่งพบว่า ผู้ให้บริการทุกรายมีค่าตัวชี้วัดคุณภาพ การให้บริการเป็นไปตามเป้าหมายและอัตราค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อยู่ในอัตราที่เป็นธรรม ๖. ประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการพิจารณาเรื่องร้องเรียนของผู้บริโภค
เช่น ให้บริการข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชนผ่านศูนย์ Call
Center 1200 และการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนในกิจการโทรคมนาคม ๗. การบริหารงาน กทปส.
โดยกองทุนสามารถเก็บรักษาเงินให้ปลอดภัยและได้รับอัตราผลตอบแทนที่เหมาะสม
และมีการทบทวนแผนการเบิกจ่ายรวมเป็นไปตามแผนที่กำหนด โดย ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๗
กองทุนมีเงินคงเหลือจำนวน ๕๙,๔๗๑.๘๔ ล้านบาท
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 132 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร และข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการร่วมกันเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ. .... (สภาผู้แทนราษฎร) | สผ. | 21/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง
พ.ศ. ๒๕๕๘ พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร
และข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการร่วมกันเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง
พ.ศ. ๒๕๕๘ พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอ ๒.
ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง
พ.ศ. ๒๕๕๘ พ.ศ. ....
ตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง
พ.ศ. ๒๕๕๘ พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร เป็นเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ในการประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||
| 133 | แจ้งผลการวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน (กรณีการไม่ออกใบอนุญาตผลิตสุราแช่ชนิดเบียร์) | สผผ. | 21/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบผลการวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน (กรณีการไม่ออกใบอนุญาตผลิตสุราแช่ชนิดเบียร์)
ตามที่ผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอ ๒.
ให้กระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานหลักรับเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย
กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์
(องค์การมหาชน) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ได้ข้อยุติ
โดยให้กระทรวงการคลังสรุปผลการพิจารณา/ผลการดำเนินการ/ความเห็นในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน
๓๐ วัน
นับจากวันที่ได้รับแจ้งจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 134 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการคุ้มครองพระพุทธศาสนา พ.ศ. .... | พศ. | 21/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการคุ้มครองพระพุทธศาสนา
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดแนวทางในการคุ้มครองพระพุทธศาสนา
โดยกำหนดให้มีคณะกรรมการคุ้มครองพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
เพื่อทำหน้าที่กำหนดมาตรการและกลไกที่เหมาะสมเพื่อป้องกันคุ้มครองพระพุทธศาสนา
ให้เป็นไปตามกฎหมาย มติคณะรัฐมนตรี พระธรรมวินัย กฎ ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง
ประกาศ มติของมหาเถรสมาคม
หรือตามพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราชให้มีคณะอนุกรรมการคุ้มครองพระพุทธศาสนาจังหวัด
ทำหน้าที่ปฏิบัติการเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาในจังหวัดให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดผลสัมฤทธิ์
และกำหนดให้มีคณะวินัยธรกลาง และคณะธรรมธรกลาง
เพื่อทำหน้าที่วินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับพระวินัยหรือปัญหาในลักษณะสัทธรรมปฏิรูปเกี่ยวกับพระธรรม
เพื่อให้มีข้อยุติที่ต้องถือปฏิบัติโดยคณะสงฆ์ ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่เห็นว่าสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้กำหนดแนวปฏิบัติในการกำหนดมาตรการและการประสานความร่วมมือให้ชัดเจน
เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปโดยรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ รวมทั้งสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
และร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีดังกล่าว กำหนดให้มีคณะกรรมการคุ้มครองพระพุทธศาสนาแห่งชาติและคณะอนุกรรมการคุ้มครองพระพุทธศาสนาจังหวัด
และให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการดังกล่าวให้เบิกจ่ายจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
จึงควรที่จะรับฟังความคิดเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณ ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 135 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร และข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการร่วมกันเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ. .... (วุฒิสภา) | สว. | 21/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง
พ.ศ. ๒๕๕๘ พ.ศ. .... ของวุฒิสภา
และข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการร่วมกันเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง
พ.ศ. ๒๕๕๘ พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอ |
||||||||||||||||||||||||||||||
| 136 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร | สผ. | 21/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร
ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอ ๒.
ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน
(ฉบับที่..) พ.ศ. .... ตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร
เป็นเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ในการประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 137 | ข้อเสนอแนะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการคุมขังในสถานที่คุมขังตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ. 2566 และอนุบัญญัติที่เกี่ยวข้อง | ปช. | 21/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
รับทราบข้อเสนอแนะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการคุมขังในสถานที่คุมขังตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง
พ.ศ. ๒๕๖๖ และอนุบัญญัติที่เกี่ยวข้อง มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดสถานที่คุมขังอื่นที่ไม่ใช่เรือนจำหรือจำคุกนอกเรือนจำ
ทั้งนี้ การดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขังอาจมีความเสี่ยงต่อการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่จะเลือกปฏิบัติเพื่อเอื้อผลประโยชน์ต่อผู้ต้องขังที่ร่ำรวยหรือมีอิทธิพลส่วนตัว
ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเสนอ ๒ มอบหมายให้กระทรวงยุติธรรม (กรมราชทัณฑ์)
เป็นหน่วยงานหลักรับเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น
กระทรวงการคลัง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ให้ได้ข้อยุติ
โดยให้กระทรวงยุติธรรมสรุปผลการพิจารณา/ผลการดำเนินการ/ความเห็นในภาพรวม
แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับจากวันที่ได้รับแจ้งจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 138 | ร่างความตกลงว่าด้วยบริการเดินอากาศระหว่างรัฐบาลของรัฐสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับรัฐบาลนิวซีแลนด์ และร่างพิธีสาร 1 แนบท้ายความตกลงฯ | คค. | 21/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||
| 139 | การรับสาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์–เลสเตเข้าเป็นสมาชิกอาเซียน | กต. | 21/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อการรับติมอร์-เลสเตเข้าเป็นสมาชิกอาเซียน
รวมทั้งให้ความเห็นชอบต่อร่างภาคยานุวัติสารต่อกฎบัตรอาเซียนและร่างปฏิญญาว่าด้วยการรับสาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต
เข้าเป็นสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และให้นายกรัฐมนตรีหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายร่วมลงนามในร่างปฏิญญาว่าด้วยการเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบของสาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต
โดยให้รัฐมนตรีที่รับผิดชอบองค์กรเฉพาะสาขาของอาเซียนร่วมจัดทำภาคยานุวัติสารของติมอร์-เลสเตในการเข้าเป็นภาคีตราสารทางกฎหมายของอาเซียนทั้ง
๒๔๑ ฉบับ ตามข้อ ๓.๒ เพื่อให้เป็นไปตามแผนการดำเนินงานฯ
โดยหากภาคยานุวัติสารฉบับใดทำให้ไทยมีพันธกรณีหรือข้อผูกพันเพิ่มเติม
ขอให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องพิจารณาขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเป็นรายฉบับอีกครั้งต่อไป
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 140 | การให้ความเห็นชอบต่อร่างแถลงการณ์ผู้นำของการประชุมสุดยอดความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ครั้งที่ 5 | พณ. | 21/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||
