คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการพิจารณาศึกษาเรื่อง มาตรการและแนวทางในการฟื้นฟูเสถียร ภาพทางการเงินและการคลังของประเทศ (ฉบับที่ 6) ของวุฒิสภา พร้อมทั้งข้อสังเกตและข้อเสนอแนะ สรุปได้ว่า จากการที่องค์การปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) สั่งปิดกิจการของบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์เป็นการถาวร รวม 56 แห่ง จากจำนวนบริษัทเงินทุน ฯ ที่ถูกสั่งปิดกิจการรวม 58 แห่ง โดย ปรส. รับสินทรัพย์มาดูแลเองทั้ง หมดนั้น ในการบริหารสินทรัพย์ของบริษัทเงินทุน ฯ ปรส. ได้เลือกใช้วิธีประมูลขายเป็นหลัก ซึ่งตามกฎหมายที่ กำกับ ปรส. มีเจตนาให้ ปรส. ชำระบัญชีของบริษัทเงินทุน ฯ ที่ถูกสั่งเลิกกิจการ หมายความว่า ต้องจัดการ สินทรัพย์ด้วยวิธีการต่าง ๆ ไม่ใช่ประมูลขายแต่อย่างเดียว นอกจากนี้ การที่รัฐบาลได้ประกาศเป็นนโยบายว่า ต้องการให้ ปรส. รีบประมูลขายสินทรัพย์ของสถาบันการเงิน เพราะต้องการเงินตราต่างประเทศ แต่ในทาง ปฏิบัติไม่มีระเบียบกำกับการประมูลที่มีเงื่อนไขเกี่ยวกับเงินตราต่างประเทศ ดังนั้น จึงไม่ปรากฎว่าการประมูล ขายสินทรัพย์ของ ปรส. ทำให้มีเงินตราต่างประเทศไหลเข้ามา และเป็นที่เชื่อกันโดยทั่วไปว่าบริษัทต่างประเทศ ที่ประมูลได้ที่กำไรได้มากอาจมีการส่งเงินตราต่างประเทศออกนอกประเทศ ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เสนอ และมอบให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาดำเนินการ แล้วแจ้งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบ เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการเลื่อนเงินเดือน ขอแต่งตั้งยศ และขอพระราชทานยศ ให้แก่ข้าราชการที่ เสียชีวิตเนื่องจากการปฏิบัติราชการ จำนวน 7 ราย ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (คณะกรรมการ พิจารณาบำเหน็จความชอบ) เสนอ

รับทราบตามที่กระทรวงเกษตและสหกรณ์รายงานผลการดำเนินการเกี่ยวกับข้อสังเกตของ คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองพันธุ์พืช พ.ศ. .... ของวุฒิสภาสรุปได้ว่า กระทรวงเกษตร ฯ ได้จัดตั้งสำนักงานคุ้มครองพันธุ์พืชแห่งชาติขึ้นเป็นหน่วยงานภายในเพื่อทำหน้าที่ รับผิดชอบดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติ ฯ ในการพิจารณาให้ความคุ้มครองพันธุ์พืช จัด ทำงบประมาณ อัตรากำลัง และสถานที่เพื่อรองรับงานดังกล่าว กับแต่งตั้งคณะกรรมการและคณะทำงาน รวม 4 ชุด นอกจากนี้ ได้เตรียมการยกร่างกฎกระทรวง ประกาศกระทรวง ประกาศกรม และคำสั่งต่าง ๆ ที่จะออกตามพระราชบัญญัติ ฯ จัดทำฐานข้อมูลพันธุ์พืชในด้านโครงสร้างลักษณะภายนอก ลักษณะภาย ใน และลักษณะทางอณูชีววิทยาของพันธุ์พืชรับรอง และพันธุ์แนะนำของกรมวิชาการเกษตร รวบรวมเอก ลักษณ์ลายพิมพ์ประจำพันธุ์พืชที่สำคัญชนิดต่าง ๆ เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบในการพิสูจน์ลักษณะความ ใหม่ของพันธุ์พืชที่จะรับรองการคุ้มครองสิทธิ การขอจดทะเบียนพันธุ์พืชใหม่ การจัดทำแบบฟอร์มต่าง ๆ ที่จำเป็นในการขอรับสิทธิคุ้มครองพันธุ์พืช จัดทำกรอบและแผนการดำเนินงานของสำนักงาน ฯ เพื่อใช้ เป็นแนวทางให้เจ้าหน้าที่ได้ยึดถือและปฏิบัติ การประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภาย นอกเพื่อดำเนินการตามพระราชบัญญัติ ฯ ประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับผู้ที่เกี่ยวข้องและประชาชนทั่ว ไป รวมทั้งแจ้งให้ World Trade for Organiztion (WTO), International Union for the Protection of New Varieties of Plants (UPOV) และทูตเกษตรได้ทราบว่าประเทศไทยได้มีกฎหมายดังกล่าวแล้ว แล้วให้แจ้ง สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เพื่อนำเสนอวุฒิสภาทราบต่อไป

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับอัตราค่าบริการโทรศัพท์ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดย ให้กระทรวงคมนาคม (องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย) รับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงการคลัง และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (เกี่ยวกับการนำนโยบายการปรับอัตรา ค่าบริการโทรศัพท์ไปใช้สำหรับให้บริการของเอกชน การกำหนดเงื่อนไขการเลือกรูปแบบที่ชัดเจน การทำ ความเข้าใจกับผู้ใช้บริการถึงข้อดี - ข้อเสียในการเลือกรูปแบบการคิดอัตราค่าบริการในแต่ละทางเลือก การ พิจารณาความเป็นไปได้ของการดำเนินการลดอัตราค่าเช่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 470 MHz การแก้ไขข้อ จำกัดในการคิดค่าใช้บริการกรณีที่มีเศษเป็นวินาที การปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานเพื่อลดต้นทุน การดำเนินการ และเร่งศึกษาโครงสร้างต้นทุนเพื่อกำหนดอัตราค่าบริการที่แข่งขันกับผู้ประกอบการรายอื่น เมื่อเปิดเสรี) รวมทั้งข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี (เกี่ยวกับการตรวจสอบและแก้ไขการให้บริการโทรศัพท์ทาง ไกล ซึ่งเมื่อผู้ใช้บริการโทรติดและมีผู้รับสาย แต่ไม่สามารถสนทนาได้ และยังต้องเสียค่าใช้บริการคิดเป็น 1 นาทีด้วย รวมทั้งการใช้บริการโทรศัพท์ระบบ PCT เมื่อเข้าสู่ระบบจะต้องเสียค่าใช้บริการรวม 2 ครั้ง ซึ่งไม่ เป็นธรรมต่อผู้ใช้บริการ) ไปพิจารณาด้วย

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ปรับปรุงแก้ไขมติคณะรัฐมนตรี (22 กันยายน 2541) เรื่อง หลักเกณฑ์และ แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการกันเงินงบประมาณไว้เบิกเหลื่อมปี และการขยายเวลาเบิกจ่ายเงินเฉพาะในส่วนที่เป็น เงินงบประมาณสมทบโครงการเงินกู้จากต่างประเทศ โดยให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจขยายเวลาเบิกจ่ายเงิน งบประมาณสมทบโครงการเงินกู้ปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 โดยให้ขยายเวลาถึงสิ้นเดือนกันยายน พ.ศ. 2543 และปีงบประมาณ พ.ศ. 2542 ให้ขยายเวลาถึงสิ้นเดือนมีนาคม พ.ศ. 2544 หากไม่สามารถเบิกจ่ายได้ทันภาย ในเวลาดังกล่าวอีกให้เงินงบประมาณนั้นพับไป สำหรับในปีงบประมาณต่อไปในชั้นนี้ให้กำหนดเป็นหลักเกณฑ์ การอนุมัติการกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีและการขยายเวลาเบิกจ่ายเงินโดยอนุมัติให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีและขยาย เวลาได้คราวละ 6 เดือน ทั้งนี้ รวมระยะเวลาแล้วไม่เกิน 18 เดือน

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงการคลังอาวัลตั๋วสัญญาใช้เงินของธนาคารเพื่อการส่งออกและ นำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ ธสน. ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ได้ขยายระยะเวลารับซื้อตั๋วสัญญา ใช้เงินที่ ธสน. เป็นผู้ออก และกระทรวงการคลังรับอาวัลจำนวน 1,000 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อปี ออกไปอีก 5 ปี นับจากวันที่ 23 มกราคม 2543 เพื่อให้ ธสน. ใช้เป็นหลักประกันในการกู้ยืมเงินแก่ ธนาคารพาณิชย์ ตามระเบียบ ธสน. ว่าด้วยการให้กู้ยืมเงินโดยมีตั๋วสัญญาใช้เงินที่เกิดจากการส่งสินค้าออก เป็นประกัน พ.ศ. 2536 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และให้กระทรวงการคลังอาวัลตั๋วสัญญาใช้เงินดังกล่าวอีกจำนวน 1,000 ล้านบาท เพื่อให้ ธสน. นำไปให้กู้ยืมแก่ผู้ประกอบกิจการอุตสาหกรรมเพื่อการเปลี่ยนเครื่องจักร จำนวนไม่เกิน 150 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.5 ต่อปี นับจากวันที่ 23 มกราคม 2543 จนถึงวันที่ 13 มีนาคม 2546 เพื่อการให้กู้ยืมเงินของ ธสน. แก่ผู้ประกอบกิจการอุตสาหกรรมตามสัญญาเดิมต่อไปและ เพื่อให้กู้ยืมตามสัญญาใหม่ และจำนวนไม่เกิน 850 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี ออกไปอีก 5 ปี นับจากวันที่ 23 มกราคม 2543 สำหรับผู้ประกอบกิจการอุตสาหกรรมที่ต้องการลงทุนซื้อเครื่องจักร ใหม่ ซื้ออุปกรณ์ที่ใช้ปรับปรุงเครื่องจักรเดิม หรือซื้ออุปกรณ์สนับสนุนการทำงานของเครื่องจักร หรือต้อง การเงินลงทุนเพื่อการย้ายโรงงานไปตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม รวมทั้งเพื่อแก้ไขและรักษาสิ่งแวดล้อม กับ อนุมัติในหลักการให้กระทรวงการคลังอาวัลตั๋วสัญญาใช้เงินของ ธสน. ที่ออกให้แก่ ธปท. ดังกล่าว ในกรณีที่ ธปท. ได้ปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการให้ความช่วยเหลือทางการเงินภายในระยะเวลา 5 ปีที่กระทรวงการคลังค้ำ ประกัน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติสงเคราะห์คุ้มครองสวัสดิภาพและส่งเสริมความ ประพฤติเด็ก พ.ศ. .... ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีได้ปรับปรุงแก้ไขตามมติที่ประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และ ให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาโดยด่วน โดยให้รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีซึ่งเห็นว่า ร่างมาตรา 10 กรรมการซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิชาชีพต่าง ๆ ควรเพิ่มสาขาวิชาชีพครูเป็น กรรมการในคณะกรรมการสงเคราะห์คุ้มครองสวัสดิภาพและส่งเสริมความประพฤติเด็กแห่งชาติด้วย แล้วส่งให้ คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป โดยที่ การสงเคราะห์คุ้มครองและพัฒนาเด็กเป็นเรื่องสำคัญและมีความจำเป็น ควรดำเนินการเป็นแผนงานระยะยาว และต่อเนื่อง จึงให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณเป็นเงินทุนประเดิมจากรัฐบาลให้แก่กองทุนสงเคราะห์ คุ้มสวัสดิภาพและส่งเสริมความประพฤติเด็กตามความเหมาะสมด้วย

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแผนปฏิบัติการภูเก็ตเมืองนานาชาติ (พ.ศ. 2542 - 2554) และให้ จังหวัดภูเก็ตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการ ฯ ต่อไป ทั้งนี้ ให้สำนัก งานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงเกษตรและ สหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม กระทรวงวิทยา ศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการ จัดระบบการจราจรทางบก รวมทั้งข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี (เกี่ยวกับความหมาย ขอบเขต และเป้าหมาย ของเมืองนานาชาติ ขอบเขตความชัดเจนของกิจกรรม การใช้ภาษาที่ติดต่อสื่อสาร การให้คนต่างชาติเข้า มาทำธุรกิจและอยู่อาศัย การมีส่วนร่วมของชุมชน ระบบการบริหารจัดการและองค์กรที่ได้มาตรฐาน การ มีกฎหมายเฉพาะ และรูปแบบการพัฒนาที่แตกต่างเป็นกรณีพิเศษจากจังหวัดอื่น ๆ และการดำเนินการให้ สอดคล้องในหลักการกรอบ แนวคิด กลยุทธ์ และแนวทางการดำเนินงานในการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน : เมืองน่าอยู่ การทบทวนการใช้คำว่า "เมืองนานาชาติ" การจัดทำแผนปฏิบัติการในลักษณะนี้กับเมืองใหม่ หรือจังหวัดอื่น ๆ ที่สำคัญด้วย การให้คำสำคัญกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วัฒน ธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ ศูนย์ประชุมนานาชาติ และการศึกษา ภาษาต่างประเทศที่ใช้ในการสื่อสาร) ไปพิจารณาดำเนินการ

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติ กักพืช พ.ศ. 2507 (ให้ยกเลิกกฎกระทรวง ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2526) ออกตามความในพระราชบัญญัติกักพืช พ.ศ. 2507 กำหนดอัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตนำเข้าหรือนำผ่านสิ่งต้องห้าม ใบอนุญาตนำเข้าหรือส่ง ออกเชื้อพันธุ์พืช ใบรับรองปลอดศัตรูพืช และใบแทนใบรับรองปลอดศัตรูพืช รวมทั้งยกเว้นค่าธรรมเนียม ดังกล่าวแก่พระมหากษัตริย์ กระทรวง ทบว ง กรม ราชการส่วนภูมิภาค ราชการส่วนท้องถิ่น สภากาชาด ไทยให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และไม่เกินอัตราท้ายพระราชบัญญัติ ฯ) ตามที่กระทรวงเกษตร และสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งให้ นายวันชัย มหัทธนังกูร ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการลงทุน (ในประเทศ) (เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน 10 ชช) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ตั้งแต่ วันที่ 14 มกราคม 2543 ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) เสนอ

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการปรับเปลี่ยนแผนการเจรจาจัดทำอนุสัญญาเพื่อการเว้นการเก็บภาษี ซ้อนประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2543 โดยปรับเปลี่ยนแผนการเจรจาจัดทำอนุสัญญา ฯ ภายนอกประเทศ จากประเทศเม็กซิโก เป็นประเทศนอร์เวย์แทน โดยกรมสรรพากรประเทศนอร์เวย์ได้เสนอกำหนดวันในการ เจรจาแก้ไขอนุสัญญาภาษีซ้อนไทย - นอร์เวย์รอบสอง ระหว่างวันที่ 5 - 9 มิถุนายน 2543 หรือ 19 - 23 มิถุนายน 2543 ณ กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการต่างประเทศรายงานผลการปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติ การของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 ระยะที่ 2 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2542 (เมษายน - กันยายน 2542) ของกระทรวงการต่างประเทศ ประกอบด้วย โครงการต่าง ๆ จำนวนทั้งสิ้น 27 แผนงาน/โครง การ/งาน โดยให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติ (เกี่ยวกับการเสริมสร้างบทบาทของไทยในเวทีระหว่างประเทศในปัจจุบันซึ่งจำเป็นต้องได้รับการ สนับสนุนจากฐานประชาชนที่มีคุณภาพ มีความรู้ความเข้าใจการเมือง และเศรษฐกิจระหว่างประเทศจนสามารถ กลั่นกรองท่าทีของประเทศไทยที่มีเอกภาพ และเป็นส่วนผสานผลประโยชน์ส่วนรวมของประเทศ ดังนั้น การจัด ทำระบบข้อมูลต่างประเทศร่วมกับการนำยุทธศาสตร์การพัฒนาประชารัฐมาใช้ประกอบการปฏิบัติงาน จึงควร ได้รับการพิจารณา ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเข้าใจภายในประเทศพร้อมไปกับการเสริมสร้างกลไกการเจรจาระหว่าง ประเทศของกระทรวงการต่างประเทศให้มีคุณภาพและเป็นเอกภาพ) ไปดำเนินการต่อไป

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายซาเละห์ อิบราฮิม ซาอัด อัล-กูวารี (Mr. Saleh Ibrahim Saad Al -Kuwari) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งรัฐกาตาร์ประจำประเทศไทยคนใหม่ สืบแทน นาย Mubarak Rashid Mubarak Al-Boainin โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงมะนิลา ตามที่กระทรวง การต่างประเทศเสนอ

คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานความเสียหายจากอุทกภัย ภาคใต้ปี 2542/2543 ในส่วนของด้านพืช และด้านปศุสัตว์ อันเนื่องมาจากได้เกิดฝนตกชุกหนาแน่นบริเวณ ภาคใต้ รวมทั้งเกิดลมมรสุมและหย่อมความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคใต้ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำ ป่าไหลหลาก โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาให้ความช่วยเหลือระยะฉุกเฉินโดยใช้เงินทดรองราชการ ในอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้งด้านพืช ปศุสัตว์ และประมง และสามารถใช้ในส่วนของหน่วยงานต้น สังกัดในอำนาจของอธิบดีได้ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบ ภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2538 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2540 หากไม่เพียงพอ ส่วนด้านปศุสัตว์ได้ให้ ความช่วยเหลือเบื้องต้นจากงบปกติไปแล้วบางส่วน