ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 5 จากทั้งหมด 5981 หน้า แสดงรายการที่ 81 - 100 จากข้อมูลทั้งหมด 119611 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
81 | ร่างพระราชกฤษฎีกาปิดประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา พ.ศ. 2566 | สว. | 02/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาปิดประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา พ.ศ.
.... (ตั้งแต่วันที่ ๒๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๖) ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ และให้นำขึ้นทูลเกล้าฯ
ถวายพร้อมกับร่างประกาศเรียกประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา พ.ศ. ....
ที่วุฒิสภาจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อประกาศใช้บังคับตามลำดับต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
82 | รายงานความก้าวหน้าการดำเนินการพัฒนายกระดับคุณภาพโรงเรียนมัธยมศึกษาให้เป็นโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย | ศธ. | 02/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความก้าวหน้าการดำเนินการพัฒนายกระดับคุณภาพโรงเรียนมัธยมศึกษาให้เป็นโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย
(จ.ภ.) ๖ แห่ง โดยพัฒนาและใช้พื้นที่โรงเรียนมัธยมศึกษาเดิมและพื้นที่ที่ได้รับจัดสรรใหม่
ซึ่งจะจัดตั้งในพื้นที่เขตตรวจราชการของสำนักนายกรัฐมนตรี ๖ เขตตรวจฯ ที่กำหนดไว้
ตามคำสั่งที่ นร ๒๒๑/๒๕๖๑ เรื่อง กำหนดพื้นที่การตรวจราชการของผู้ตรวจราชการ จำนวน
๑๘ เขตตรวจฯ ที่ยังไม่มี จ.ภ. ตั้งอยู่ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
83 | ผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน ครั้งที่ 9 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง | กค. | 02/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน
ครั้งที่ ๙ และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ ๒๘-๓๑ มีนาคม ๒๕๖๖ ณ
เกาะบาหลี สาธารณรัฐอินโดนีเซีย โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุม สรุปได้ ดังนี้ (๑)
การประชุมรัฐมนตรีกระทรวงการคลังอาเซียน (AFMM) ครั้งที่ ๒๗ ที่ประชุมฯ
ได้ติดตามความคืบหน้าของความร่วมมือทางการเงินอาเซียน โดยมีประเด็นหารือที่สำคัญ
เช่น การปรับทิศทางการดำเนินงานไปสู่การลงทุนในโครงการสีเขียวเพิ่มขึ้น
และการพิจารณาการเพิ่มทุนมูลค่า ๑๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ของกองทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคอาเซียน (๒) การประชุม AFMGM ครั้งที่ ๙
มีการหารือเกี่ยวกับภาพรวมเศรษฐกิจภูมิภาคและเศรษฐกิจโลกกับสถาบันการเงินระหว่างประเทศ
และรับทราบประเด็นที่สำคัญที่อินโดนีเซียในฐานะประธานอาเซียนต้องการผลักดันให้สำเร็จภายในปี
๒๕๖๖ ได้แก่ ด้านการฟื้นฟูและการสร้างใหม่ เศรษฐกิจดิจิทัล และความยั่งยืน (๓)
การประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ มีการหารือใน ๓
ประเด็น ได้แก่ ความท้าทายของนโยบายการคลังภายหลังสถานการณ์โควิด-๑๙
ความมั่นคงทางพลังงาน และความมั่นคงทางอาหาร (๔)
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้มีการหารือทวิภาคีกับคู่เจรจาต่าง ๆ เช่น
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอินโดนีเซีย โดยได้แลกเปลี่ยนข้อมูลนโยบายเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังขอให้อินโดนีเซียสนับสนุนให้ไทยเป็นเจ้าภาพจัดงาน World
Expo 2028 ณ จังหวัดภูเก็ต และสภาธุรกิจสหภาพยุโรป-อาเซียน
โดยรัฐมนตรีกระทรวงการคลังกล่าวถึงการดำเนินการเพื่อสนับสนุนการเงินที่ยั่งยืน
โดยไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนา BCG Economy และ (๕)
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ
“การเปลี่ยนผ่านสู่การเงินที่ยั่งยืนในอาเซียน”
ร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอินโดนีเซีย
และรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสิงคโปร์ มีสาระสำคัญ เช่น
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
เห็นควรผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนควบคู่กับการให้ความสำคัญด้านเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
และการแก้ไขปัญหาเรื่องพลังงานของไทย เช่น การผลักดันนโยบาย ๓๐@๓๐ ตามแนวทางการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
84 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง แนวทางการขับเคลื่อนตลาดแรงงานไทยเพื่อก้าวผ่านยุคโควิด-19 : การปรับตัวของแรงงานทุกกลุ่มทุกช่วงวัย เพื่อความก้าวหน้า มั่นคงและยั่งยืน ของคณะกรรมาธิการการแรงงาน วุฒิสภา | สว. | 02/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง
แนวทางการขับเคลื่อนตลาดแรงงานไทยเพื่อก้าวผ่านยุคโควิด-19 : การปรับตัวของแรงงานทุกกลุ่มทุกช่วงวัย
เพื่อความก้าวหน้า มั่นคงและยั่งยืน ของคณะกรรมาธิการแรงงาน วุฒิสภา
ซึ่งกระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาร่วมกัน
โดยสรุปผลการพิจารณาได้ว่า
หน่วยงานที่เกี่ยข้องเห็นด้วยกับรายงานดังกล่าวและได้มีการดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ
ในประเด็นต่าง ๆ เช่น กำหนดมาตรการทางการเงินเพื่อช่วยเหลือส่งเสริมผู้ประกอบธุรกิจ
ดำเนินมาตรการสนับสนุนให้ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดย่อมเข้าถึงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐมากขึ้น
พัฒนาช่องทางต่าง ๆ เพื่อให้ลูกจ้างเข้าถึงสิทธิตามกฎหมายได้อย่างครบถ้วน
มีแนวทางบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคลอย่างเป็นระบบ
ดำเนินมาตรการส่งเสริมและพัฒนาความรู้ความสามารถให้กับแรงงาน เป็นต้น ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานวุฒิสภาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
85 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค. | 02/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน
พ.ศ. ๒๕๖๓ โดยกำหนดให้สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและพัฒนา (องค์การมหาชน)
(สคพ.) เป็นหน่วยงานของรัฐประเภทที่ปรึกษาที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน
เพื่อให้หน่วยงานของรัฐที่มีความประสงค์จัดจ้างที่ปรึกษาจากสถาบันดังกล่าวใช้วิธีเฉพาะเจาะจงได้
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
86 | ผลการประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียน ครั้งที่ 26 และการประชุมระดับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง | กก. | 02/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียน ครั้งที่ ๒๖ และการประชุมระดับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
เมื่อวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ ณ เมืองยอกยาการ์ตา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย สรุปได้
ดังนี้ (๑) การประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียน ครั้งที่ ๒๖
ซึ่งที่ประชุมรับทราบความสำเร็จในการฟื้นฟูการท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียน โดยในปี
๒๕๖๖ มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในภูมิภาคเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ ๑,๒๒๒.๙๙ และมีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ
๑,๗๐๖.๖๑ เมื่อเทียบกับปี ๒๕๖๔ ทั้งนี้
ที่ประชุมได้ให้ความสำคัญในประเด็นต่าง ๆ เช่น
การส่งเสริมการท่องเที่ยวอาเซียนให้มีความสามารถในการแข่งขัน และการยกระดับสมรรถนะบุคลากรวิชาชีพด้านการท่องเที่ยวอาเซียน
(๒) การประชุมระดับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย
การประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียนบวกสาม ครั้งที่ ๒๒
การประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียน-อินเดีย ครั้งที่ ๑๐
และการประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียน-รัสเซีย ครั้งที่ ๒ และ (๓)
รัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียนได้ให้การรับรองเอกสาร ๕ ฉบับ
ซึ่งเป็นเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมฯ โดยไม่มีการลงนาม ได้แก่
ถ้อยแถลงประธานการประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียน ครั้งที่ ๒๖ ถ้องแถลงประธานร่วมการประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียนบวกสาม
(จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้) ครั้งที่ ๒๒
ถ้อยแถลงประธานร่วมการประชุมรัฐมนตรี-ท่องเที่ยวอาเซียน-อินเดีย ครั้งที่ ๑๐
ถ้อยแถลงประธานร่วมการประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียน-รัสเซียอินเดีย ครั้งที่ ๒
และแผนงานความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวอาเซียน-อินเดีย พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗๐ ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
87 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อว. | 02/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา
อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ
และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริญญาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาการบัญชีและเพิ่มระดับชั้นปริญญาตรีในสาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์
รวมทั้งกำหนดสีประจำสาขาวิชาการบัญชีและแก้ไขเข็มวิทยฐานะของมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
88 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น | พน. | 02/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายในกรอบวงเงิน
๑๐,๔๖๔ ล้านบาท โดยขอเบิกจ่ายจากงบเงินอุดหนุน
ประเภทเงินอุดหนุนทั่วไป สำหรับดำเนินมาตรการในช่วงเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๖
ถึงเดือนสิงหาคม ๒๕๖๖ โดยกระทรวงพลังงานไม่ได้ขอรับจัดสรรงบประมาณปี พ.ศ. ๒๕๖๖
สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายมาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนจากสถานการณ์ราคาพลังงาน
โดยให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าแบบขั้นบันใดแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน
๓๐๐ หน่วยต่อเดือน และส่วนลดค่าไฟฟ้าสำหรับงวดเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๖ จำนวน ๑๕๐
บาทต่อรายซึ่งเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้า ไม่เกิน ๕๐๐
หน่วยต่อเดือน เพื่อเป็นการลดภาระค่าครองชีพของประชาชน
โดยแบ่งสัดส่วนการขอจัดสรรงบประมาณสำหรับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยและกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ
จำนวน ๓๕.๗๐ ล้านบาท และการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จำนวน ๑๐,๔๒๘.๓๐ ล้านบาท ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้เมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้งตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
มาตรา ๑๖๙ (๓) แล้ว ทั้งนี้
ให้กระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
(หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๐๘/๘๖๕๓ ลงวันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๖๖)
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรดำเนินมาตรการเร่งด่วนด้านพลังงานเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนจากสถานการณ์ราคาพลังงาน
โดยให้ความสำคัญในเรื่องการเตรียมความพร้อมของโครงการ วิธีดำเนินงาน
เพื่อให้ได้ผลสัมฤทธิ์ รวมถึงปฏิบัติให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ
ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องในทุกขั้นตอน และให้ความสำคัญในการติดตามและปรับสมมติฐานที่ใช้ในการคำนวณอัตราค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ
(Ft)
ให้สะท้อนสภาวการณ์ปัจจุบันอย่างใกล้ชิดควบคู่กับการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการกำหนดอัตราค่าไฟฟ้าแก่ทุกภาคส่วน
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
89 | ร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน+3 ครั้งที่ 26 | กคศ. | 02/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน+๓
ครั้งที่ ๒๖ ที่มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๖๖ ณ เมืองอินซอน
สาธารณรัฐเกาหลี และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังร่วมรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน+๓
ครั้งที่ ๒๖ โดยร่างแถลงการณ์ร่วมฯ
มีสาระสำคัญเพื่อแสดงถึงเจตนารมณ์ร่วมกันของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน+๓
เพื่อสนับสนุนความร่วมมือในด้านต่าง ๆ
และเสริมสร้างความแข็งแกร่งของความร่วมมือทางการเงินของภูมิภาค อาทิ
การรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเงินของภูมิภาคเพื่อสนับสนุนการเติบโตที่ครอบคลุมและยั่งยืน
และการเสริมสร้างประสิทธิภาพของความร่วมมือของอาเซียน+๓
รวมทั้งการกำหนดข้อริเริ่มภายใต้กรอบความร่วมมือทางการเงินอาเซียน+๓ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน+๓
ครั้งที่ ๒๖
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการคลังดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
90 | การรับรองร่างปฏิญญาของการประชุมรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมกลุ่ม 77 บวกสาธารณรัฐประชาชนจีน | วธ. | 02/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบการรับรองร่างปฏิญญาของการประชุมรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมกลุ่ม
๗๗ บวกสาธารณรัฐประชาชนจีน และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมรับรองร่างปฏิญญาของการประชุมรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมกลุ่ม
๗๗ บวกสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยร่างปฏิญญาการประชุมรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม
มีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองร่วมกันของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมกลุ่ม
๗๗ บวกสาธารณรัฐประชาชนจีน
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อไตร่ตรองถึงความท้าทายรูปแบบใหม่ของภาควัฒนธรรมในประเทศสมาชิก
ตลอดจนมุ่งส่งเสริมความคิดริเริ่มที่จะดำเนินการในมิติด้านสังคมและเศรษฐกิจของวัฒนธรรม
เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน การเปลี่ยนแปลงทางสังคม
การสนับสนุนกลไกความร่วมมือและทางเลือกเพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมในฐานะสินค้าสาธารณะแห่งโลก
รวมถึงส่งเสริมการแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติที่ดีและเสริมสร้างขีดความสามารถในประเทศกำลังพัฒนา
ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างปฏิญญาของการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมกลุ่ม
๗๗ บวกสาธารณรัฐประชาชนจีน
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงวัฒนธรรมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้กระทรวงวัฒนธรรมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
91 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมคาร์บอนไดออกไซด์ทางการแพทย์ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... | อก. | 02/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมคาร์บอนไดออกไซด์ทางการแพทย์ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขปรับปรุงมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมคาร์บอนไดออกไซด์ทางการแพทย์ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน
เนื่องจากมาตรฐานดังกล่าวใช้คาร์บอนไดออกไซด์ทางการแพทย์มาเกิน ๕ ปีแล้ว
เพื่อให้สอดคล้องกับความก้าวหน้าทางวิชาการและมาตรฐานสากลที่ใช้ในปัจจุบัน ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
92 | รายงานผลการปฏิบัติงานและผลการใช้จ่ายงบประมาณของหน่วยรับงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 (ไตรมาสที่ 2) | นร.07 | 02/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานและผลการใช้จ่ายงบประมาณของหน่วยรับงบประมาณ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ (ไตรมาสที่
๒) ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๕ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๕ ทั้งนี้
การจัดทำรายงานดังกล่าวเป็นไปตามนัยพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
93 | การขอความเห็นชอบต่อร่างถ้อยแถลงร่วมสำหรับการประชุมคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ครั้งที่ 29 [Joint Statement of the Twenty - Ninth ASEAN Socio - Cultural Community (ASCC) Council] | พม. | 02/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างถ้อยแถลงร่วมสำหรับการประชุมคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ครั้งที่ ๒๙ [Joint Statement of the Twenty-Ninth ASEAN Socio-Cultural Community (ASCC) Council] และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมาย
ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะมนตรีประชาคมอาเซียนและวัฒนธรรมอาเซียน
ครั้งที่ ๒๙ [29th ASEAN Socio-Cultural Community (ASCC) Council Meeting] ให้การรับรองร่างถ้อยแถลงสำหรับการประชุมคณะมนตรีประชาคมอาเซียนและวัฒนธรรมอาเซียน
ครั้งที่ ๒๙ ในวันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๖๖ ณ เมืองบาหลี สาธารณรัฐอินโดนีเซีย โดยร่างถ้อยแถลงร่วมฯ
มีสาระสำคัญเพื่อสนับสนุนและชื่นชมความก้าวหน้าและความสำเร็จในการดำเนินงานภายใต้ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
ภายใต้การเป็นประธานอาเซียนของสาธารณรัฐอินโดนีเซีย
ภายใต้แนวคิด “อาเซียนเป็นศูนย์กลาง สรรสร้างความเจริญ” “ASEAN
Matters : Epicentrum of Growth”ตลอดจนการรับทราบความก้าวหน้าการดำเนินงานต่าง
ๆ ภายใต้ประชาสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
และให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ
ในกรณีที่มีการปรับแก้ ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ในฐานะส่วนราชการเจ้าของเรื่องพิจารณาให้ร่างสุดท้ายของร่างถ้อยแถลงร่วมดังกล่าวเป็นไปตามแนวทางในข้อ
๑.๑ ไปดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างถ้อยแถลงร่วมสำหรับการประชุมคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
ครั้งที่ ๒๙
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่อง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
94 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี (ฉบับ ..) พ.ศ. .... | อว. | 02/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา
อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ
และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริญญาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาการพยาบาลศาสตร์
สาขาวิชาการแพทย์แผนไทย สาขาวิชาวิจิตรศิลป์และประยุกต์ศิลป์
และสาขาวิชาศึกษาศาสตร์ เพิ่มขึ้น รวมทั้งสีประจำคณะพยาบาลศาสตร์ ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมรับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๘ กันยายน ๒๕๔๑ ให้ถือเป็นหลักการว่า
เมื่อมหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษาใดอนุมัติหลักสูตรวิชาใดแล้ว
จะต้องเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดปริญญาในสาขาวิชานั้นเสียก่อน
แล้วจึงจะเปิดทำการสอนในสาขาวิชานั้นได้ แต่โดยที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าสภามหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานีได้อนุมัติหลักสูตร
ดังนี้ (๑) หลักสูตรพยาบาลศาสตร์บัณฑิต (๒) หลักสูตรศิลปกรรมศาสตรบัณฑิต
สาขาวิชาศิลปกรรมพื้นถิ่น (๓) หลักสูตรครุศาสตร์อุตสาหกรรมบัณฑิต
สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล (๕ ปี) (๔) หลักสูตรการแพทย์แผนไทยบัณฑิต
สาขาวิชาแพทย์แผนไทย และได้เปิดการเรียนการสอนแล้วในสาขาวิชาดังกล่าว
ก่อนเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา
ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยะฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิตและหลักสูตรศิลปกรรมศาสตรบัณฑิต
มีผู้สำเร็จการศึกษาในปีการศึกษา ๒๕๖๕ (พ.ศ. ๒๕๖๖)
และจะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรประมาณเดือนกันยายน ๒๕๖๖ ส่วนหลักสูตรครุศาสตร์อุตสาหกรรมบัณฑิต
และหลักสูตรการแพทย์แผนไทยบัณฑิตจะสำเร็จการศึกษาในปีการศึกษา ๒๕๖๗ (พ.ศ. ๒๕๖๘)
และจะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรประมาณเดือนกันยายน ๒๕๖๘ ดังนั้น
กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ควรดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวอย่างเคร่งครัด
เมื่อมหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษาใดอนุมัติหลักสูตรวิชาใดแล้ว
จะต้องเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดปริญญาในสาขาวิชานั้นเสียก่อน
แล้วจึงจะเปิดทำการสอนในสาขาวิชานั้น
เพื่อให้พระราชกฤษฎีกามีผลใช้บังคับก่อนเปิดทำการสอน
ซึ่งจะรองรับศักดิ์และสิทธิ์แห่งปริญญาให้แก่ผู้สำเร็จการศึกษา ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
95 | การประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาบาเซลว่าด้วยการควบคุมการเคลื่อนย้ายข้ามแดนของของเสียอันตรายและการกำจัด สมัยที่ 16 การประชุมรัฐภาคีอนุสัญญารอตเตอร์ดัมว่าด้วยกระบวนการแจ้งข้อมูลสารเคมีล่วงหน้าสำหรับสารเคมีอันตรายและสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชและสัตว์บางชนิดในการค้าระหว่างประเทศ สมัยที่ 11 และการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสตอกโฮล์มว่าด้วยสารมลพิษที่ตกค้างยาวนาน สมัยที่ 11 | ทส. | 02/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
96 | ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนลานกระบือ จังหวัดกำแพงเพชร พ.ศ. .... | มท. | 02/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนลานกระบือ
จังหวัดกำแพงเพชร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวม
ในท้องที่ตำบลลานกระบือ ตำบลจันทิมา และตำบลโนนหลวง อำเภอลานกระบือ จังหวัดกำแพงเพชร
เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท
ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค
บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม
เพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
สอดคล้องกับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
รวมทั้งอนุรักษ์และสงวนที่เกษตรกรรมสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ
และเป็นศูนย์กลางหลักของชุมชน ด้านการบริหาร การปกครอง ย่านพาณิชยกรรม
โดยได้มีการกำหนดแผนผังและการใช้ประโยชน์ที่ดินภายในเขตผังเมืองรวมจำแนกออกเป็น ๑๐
ประเภท
ซึ่งแต่ละประเภทจะกำหนดลักษณะกิจการที่ให้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์การใช้ที่ดินแต่ละประเภทนั้น
ๆ รวมทั้งกำหนดประเภทหรือชนิดของโรงงานที่ให้ดำเนินการในที่ดินแต่ละประเภท
ตลอดจนการใช้ประโยชน์ที่ดินตามแผนผังโครงการคมนาคมและขนส่ง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น ให้กรมโยธาธิการและผังเมืองกำหนดสัญญาลักษณ์สีแสดงการใช้ประโยชน์ที่ดินเป็นเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมไว้ในผังการใช้ประโยชน์ที่ดิน
(สีเขียวมีกรอบและเส้นทแยงสีน้ำตาล) และเพิ่มข้อกำหนดการใช้ที่ดิน
(ที่ดินประเภทปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม)
ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขในการขอ
และการพิจารณาให้ความยินยอมหรืออนุญาตให้ใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ.
๒๕๖๐ ในร่างประกาศกระทรวงมหาดไทยดังกล่าว ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย กฎหรือระเบียบ
และความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาล
เกิดผลสัมฤทธิ์หรือประโยชน์ต่อภาครัฐและประชาชนเป็นสำคัญ คำนึงถึงผลกระทบต่อการดำรงชีวิตที่ปกติสุขของประชาชน
และเป็นไปตามกฎกระทรวงควบคุมสถานประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๖๐ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง กำหนดประเภทหรือขนาดของกิจการ และหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข
ที่ผู้ขออนุญาตจะต้องดำเนินการก่อนการพิจารณาออกใบอนุญาต พ.ศ. ๒๕๖๑
และประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง
หลักเกณฑ์ในการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่เกี่ยวข้อง พ.ศ. ๒๕๖๑ ด้วย ควรกำกับดูแลการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เป็นไปตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด
เพื่อรักษาพื้นที่เกษตรกรรมและสภาพแวดล้อม
รวมถึงป้องกันและบรรเทาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากอุทกภัย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
97 | ขอความเห็นชอบและรับรองต่อเอกสารผลลัพธ์ในระดับรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน และคณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน สำหรับการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 42 | พณ. | 02/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการพัฒนาระบบนิเวศสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าระดับภูมิภาค
และร่างภาคผนวกประกอบแผนการดำเนินงานสำหรับการเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนของติมอร์-เลสเต
ในส่วนของเสาประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
โดยร่างปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการพัฒนาระบบนิเวศสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าระดับภูมิภาค
เป็นเอกสารแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันในการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพในภูมิภาค
เพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกและลดการปล่อยคาร์บอน
เพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในภูมิภาค
ส่วนร่างภาคผนวกประกอบแผนการดำเนินงานสำหรับการเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนของติมอร์-เลสเต
ในส่วนของเสาประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
เป็นเอกสารที่กำหนดหลักเกณฑ์ในการดำเนินการเข้าเป็นภาคีตามความตกลงของเสาประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนก่อนการเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนอย่างสมบูรณ์
โดยติมอร์-เลสเต ต้องมีความพร้อมในการดำเนินการตามความตกลงและตราสารสำหรับเสาประชาคมเศรษฐกิจภายในร่างภาคผนวกรวม
๒๒๐ ฉบับ แบ่งออกเป็น ๓ ช่วง ได้แก่ ๑) ต้องมีความพร้อมในการเข้าร่วมทันที จำนวน
๖๖ ฉบับ ๒) ต้องเข้าร่วมภายใน ๒ ปี
หลังเป็นสมาชิกอาเซียน จำนวน ๔๘ ฉบับ และ ๓) ต้องเข้าร่วมภายใน ๕ ปี
หลังเข้าเป็นสมาชิกอาเซียน จำนวน ๑๐๖ ฉบับ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
และหากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างปฏิญญาผู้นำอาเซียนว่าด้วยการพัฒนาระบบนิเวศสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าระดับภูมิภาค
และร่างภาคผนวกประกอบแผนการดำเนินงานสำหรับการเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนของติมอร์-เลสเต
ในส่วนของเสาประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ทั้งนี้ ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรประชาสัมพันธ์สาระสำคัญของร่างปฏิญญาฯ
รวมถึงแนวทางและมาตรการที่คณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะกำหนดขึ้นในอนาคตอย่างต่อเนื่อง
เพื่อให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องสามารถปรับตัวและใช้ประโยชน์จากร่างปฏิญญา และมาตรการต่าง
ๆ ได้อย่างเหมาะสม เร่งศึกษาโอกาส ผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
และแนวทางการเตรียมความพร้อมของไทย
เพื่อสนับสนุนให้เกิดการบูรณาการทางเศรษฐกิจภายใต้กรอบความร่วมมือของอาเซียนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะความตกลงที่ติมอร์-เลสเตจะเข้าร่วมทันทีเมื่อภาคยานุวัติเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนตามร่างภาคผนวกฯ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
98 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาการเปิดเผยและการส่งข้อมูลการอุดมศึกษา พ.ศ. .... | สคก. | 02/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาการเปิดเผยและการส่งข้อมูลการอุดมศึกษา
พ.ศ. .... ของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวกับการดำเนินงานของสถาบันอุดมศึกษาแก่สาธารณะ
และการส่งข้อมูลของสถาบันการอุดมศึกษาให้แก่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม และให้ดำเนินการต่อไปได้ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
99 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อว. | 02/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา
อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ
และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริญญาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาดุริยางคศาสตร์ เพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมรับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๘ กันยายน ๒๕๔๑ ให้ถือเป็นหลักการว่า
เมื่อมหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษาใดอนุมัติหลักสูตรวิชาใดแล้ว
จะต้องเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดปริญญาในสาขาวิชานั้นเสียก่อน
แล้วจึงจะเปิดทำการสอนในสาขาวิชานั้นได้ แต่โดยที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าสภามหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ได้มีมติเห็นชอบหลักสูตรดุริยางคศาสตรบัณฑิต
สาขาวิชาดุริยางคศิลป์ (หลักสูตรใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๕) เมื่อวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ และได้มีการเปิดการเรียนการสอนแล้วในสาขาวิชาดุริยางคศิลป์ในปี
๒๕๖๕ โดยจะมีผู้สำเร็จการศึกษาในปี ๒๕๖๘ ดังนั้น กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม ควรดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวอย่างเคร่งครัด
เมื่อมหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษาใดอนุมัติหลักสูตรวิชาใดแล้ว
จะต้องเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดปริญญาในสาขาวิชานั้นเสียก่อน
แล้วจึงจะเปิดทำการสอนในสาขาวิชานั้นได้
เพื่อให้พระราชกฤษฎีกามีผลใช้บังคับก่อนเปิดทำการสอน
ซึ่งจะรองรับศักดิ์และสิทธิ์แห่งปริญญาให้แก่ผู้สำเร็จการศึกษา
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
100 | นายกรัฐมนตรีลากิจในระหว่างวันที่ 26-28 เมษายน 2566 วันที่ 1-3 พฤษภาคม 2566 และวันที่ 8 พฤษภาคม 2566 | นร 05 | 02/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
(นางสาวสาวิตรี ชำนาญกิจ) รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งว่านายกรัฐมนตรีได้ลากิจ
ดังนี้ ๑. วันพุธที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๖๖
ตั้งแต่เวลา ๑๓.๐๐ น.-๑๖.๓๐ น. ๒. วันพฤหัสบดีที่ ๒๗ เมษายน
๒๕๖๖ ตั้งแต่เวลา ๑๓.๐๐ น.-๑๖.๓๐ น. ๓. วันศุกร์ที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๖๖
ตั้งแต่เวลา ๑๓.๐๐ น.-๑๖.๓๐ น. ๔. วันจันทร์ที่ ๑ พฤษภาคม
๒๕๖๖ ตั้งแต่เวลา ๘.๓๐ น.-๑๓.๐๐ น. ๕.วันอังคารที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๖๖
ตั้งแต่เวลา ๑๓.๐๐ น.-๑๖.๓๐ น. ๖.วันพุธที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๖๖
ตั้งแต่เวลา ๘.๓๐ น.-๑๖.๓๐ น. ๗. วันจันทร์ที่ ๘ พฤษภาคม
๒๕๖๖ ตั้งแต่เวลา ๘.๓๐ น.-๑๖.๓๐ น.
|