ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 7 จากทั้งหมด 6142 หน้า แสดงรายการที่ 121 - 140 จากข้อมูลทั้งหมด 122822 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
121 | การแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานการแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ และมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการ ในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี (คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 426/2567) | นร.04 | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี
ที่ ๔๒๖/๒๕๖๗ เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมาย และมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ
และมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ
รองประธานกรรมการ และกรรมการ ในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย
และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี
ที่ ๓๑๔/๒๕๖๗ เรื่อง มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ
และมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ
รองประธานกรรมการ และกรรมการ ในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ลงวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๖๗ ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติรับทราบไว้เมื่อวันที่ ๑๗ กันยายน
๒๕๖๗) ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
122 | ร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การยกเว้นอากร ลดและเพิ่มอัตราอากรศุลกากรตามข้อผูกพันในความตกลงมาร์ราเกชจัดตั้งองค์การการค้าโลก (ฉบับที่ ..) (อัตราอากรสำหรับสินค้ากากถั่วเหลืองที่นำเข้ามาเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมผลิตเป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ ปี 2568 - 2570) | กค. | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
123 | การเข้าร่วมเป็นพันธมิตรใน International Partnership for Blue Carbon (IPBC) | ทส. | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
124 | สรุปผลการประชุมระดับรัฐมนตรีว่าด้วยความครอบคลุมและการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลในภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก | ดศ. | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมระดับรัฐมนตรีว่าด้วยความครอบคลุมและการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลในภูมิภาคเอเชีย
- แปซิฟิก ระหว่างวันที่ ๓ - ๕ กันยายน ๒๕๖๗ ณ กรุงอัสตานา สาธารณรัฐคาซัคสถาน โดยมอบหมายให้ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
(ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ).เข้าร่วมการประชุมฯ
ซึ่งในการประชุมดังกล่าวได้มีการหารือเกี่ยวกับ (๑)
การแลกเปลี่ยนมุมมองเชิงนโยบายในการสร้างอนาคตดิจิทัลที่ครอบคลุมและยั่งยืนเพื่อเร่งรัดการดำเนินการตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
ซึ่งได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการลดช่องว่างการเข้าถึงดิจิทัลอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม
โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
และความสำคัญของการสนับสนุนความร่วมมือระหว่างประเทศและระดับภูมิภาค เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านการพัฒนาดิจิทัลที่ปลอดภัย
มั่นคง และยั่งยืน (๒) การส่งเสริมดิจิทัลโซลูชันเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยคาซัคสถานเสนอให้มีการจัดตั้งศูนย์ดิจิทัลโซลูชันเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
เพื่อให้บริการดิจิทัลโซลูชันที่มีประสิทธิภาพในภูมิภาคเอเชียกลางและภูมิภาคอื่น ๆ
และ (๓)
การเสริมสร้างความร่วมมือด้านดิจิทัลในระดับภูมิภาคเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
โดยคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมสำหรับเอเชียและแปซิฟิก (ESCAP) ได้รายงานความก้าวหน้าในการดำเนินการตามข้อริเริ่มในระดับโลกและระดับภูมิภาคเกี่ยวกับความร่วมมือด้านดิจิทัล
โดยเฉพาะแผนปฏิบัติการเพื่อดำเนินการตามข้อริเริ่มทางด่วนข้อมูลสารสนเทศแห่งเอเชียและแปซิฟิก
ค.ศ. ๒๐๒๒ - ๒๐๒๖ ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
125 | การขอต่อระยะเวลาผลิตปิโตรเลียม สัมปทานปิโตรเลียมเลขที่ 3/2539/50 แปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข B8/38 | พน. | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ เมดโค เอนเนอร์จี ไทยแลนด์ (บัวหลวง) ลิมิเต็ด
และเมดโค เอนเนอร์จี ไทยแลนด์ (อีแอนด์พี) ลิมิเต็ด
ต่อระยะเวลาผลิตปิโตรเลียมสำหรับสัมปทานปิโตรเลียมเลขที่ ๓/๒๕๓๙/๕๐ แปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข
B8/38
ออกไปอีก ๑๐ ปี นับตั้งแต่วันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๘ ถึงวันที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๕๗๘ ทั้งนี้
กระทรวงพลังงานจะได้ออกเป็นสัมปทานปิโตรเลียมเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๕) ของสัมปทานปิโตรเลียมเลขที่
๓/๒๕๓๙/๕๐ ตามแบบ ชธ/ป๓/๑ ที่กำหนดในกฎกระทรวงกำหนดแบบสัมปทานปิโตรเลียม พ.ศ. ๒๕๕๕
ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ และให้กระทรวงพลังงาน (กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ)
รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรมอบหมายให้กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติกำกับให้ผู้รับสัมปทานดำเนินการให้เป็นไปตามสัญญา
โดยเฉพาะในส่วนของงานที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาทรัพยากรปิโตรเลียมของประเทศ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
126 | ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การนำข้าวโพดที่ใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์เข้ามาในราชอาณาจักรตามความตกลงภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน สำหรับปี พ.ศ. 2568 พ.ศ. .... | พณ. | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง
การนำข้าวโพดที่ใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์เข้ามาในราชอาณาจักรตามความตกลงภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน
สำหรับปี พ.ศ. ๒๕๖๘ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการขยายระยะเวลาการนำเข้าข้าวโพดที่ใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ตามความตกลงภายใต้เขตการค้าเสรีอาเชียน
(ASEAN Free Trade Area: AFTA) สำหรับปี
๒๕๖๘ พิกัดอัตราศุลกากรประเภทย่อย ๑๐๐๕.๔๐.๙๙ รหัสสถิติ ๐๐๑ ออกไปอีก ๑ ปี
โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๘ จนถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๘
เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะกรรมการนโยบายอาหาร ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
และให้กระทรวงพาณิชย์ระบุวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติไว้ในร่างประกาศด้วย และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
127 | มาตรการรักษาเสถียรภาพราคามันสำปะหลัง ปี 2567/68 | พณ. | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบผลการดำเนินมาตรการรักษาเสถียรภาพราคามันสำปะหลัง
ปี ๒๕๖๖/๖๗ การดำเนินโครงการเพิ่มช่องทางการตลาดสินค้าพืชโร่ ปีการผลิต ๒๕๖๗/๖๘
และแนวทางมาตรการในการขยายตลาดส่งออกสินค้ามันสำปะหลัง
ปี ๒๕๖๗/๖๘ และอนุมัติในหลักการมาตรการรักษาเสถียรภาพราคามันสำปะหลัง ปี
๒๕๖๗/๖๘ จำนวน ๔ โครงการ ภายในกรอบวงเงิน ๓๖๘,๙๐๐,๐๐๐ บาท ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ ให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทยไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการต่าง ๆ ภายใต้มาตรการฯ ดังกล่าว
เพื่อให้การดำเนินมาตรการรักษาเสถียรภาพราคามันสำปะหลัง ปี ๒๕๖๗/๖๘
บรรลุผลตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ธนาคารแห่งประเทศไทย เห็นว่า ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
(ธ.ก.ส.)
ควรกำหนดเพดานอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกันเพื่อลดความเสี่ยงกรณีที่หลักประกันมีคุณภาพเสื่อมลง
และมีการควบคุมและตรวจสอบสต็อกของหลักประกัน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรกำหนดแนวทางชดเชยความเสียหายให้
ธ.ก.ส. เพิ่มเติม หากโครงการเกิดความเสียหายมากกว่าที่ประมาณการไว้
รวมทั้งควรประเมินผลการดำเนินของมาตรการ
เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และนำมาใช้ประโยชน์สำหรับการออกแบบมาตรการในระยะต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสนับสนุนและส่งเสริมการนำมันสำปะหลังมาแปรรูปเป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ให้มากยิ่งขึ้นเพื่อเพิ่มมูลค่าของมันสำปะหลัง
และเพื่อช่วยระบายสต๊อกในช่วงที่ผลผลิตมันสำปะหลังภายในประเทศมีแนวโน้มกระจุกตัวอันเนื่องมาจากการส่งออกมันสำปะหลังไปยังต่างประเทศมีแนวโน้มชะลอตัวลง |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
128 | ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ ยกเลิกประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้หินเป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 พ.ศ. .... | พณ. | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์
ยกเลิกประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้หินเป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร
พ.ศ. ๒๕๕๑ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกประกาศกระทรวงพาณิชย์ กำหนดให้หินเป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร
พ.ศ. ๒๕๕๑ เนื่องจากเป็นการลดอุปสรรคในการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการ รวมทั้งเป็นไปตามมติที่ประชุมคณะทำงานดำเนินงานโครงการเสริมสร้างความพร้อมด้านการจัดระเบียบบริหารการค้ารองรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
(AEC) ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของกระทรวงการคลัง
ที่เห็นควรมีการประชาสัมพันธ์แนวปฏิบัติของการดำเนินการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ดังกล่าวให้แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ
เพื่อให้สามารถปฏิบัติได้ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
129 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม 2567 | ปสส. | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๖๗
ซึ่งพิจารณาเรื่องที่คณะรัฐมนตรีส่งมาให้วิปรัฐบาลพิจารณา ได้แก่ พิธีสารฉบับที่สองเพื่อแก้ไขความตกลงเพื่อจัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียน
- ออสเตรเลีย - นิวชีแลนด์ พิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๖
ปีที่ ๒ ครั้งที่ ๒ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพุธที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๗
พิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๒ ครั้งที่ ๓
(สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพฤหัสบดีที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๗ และพิจารณาร่างพระราชบัญญัติและพิธีสารที่จะบรรจุในระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา
วันศุกร์ที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๗ ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
130 | การขับเคลื่อนความร่วมมือภายใต้กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโด - แปซิฟิก | กต. | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
131 | รายงานผลการเดินทางเยือนเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง สาธารณรัฐประชาชนจีน ของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ | พณ. | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการเดินทางเยือนเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง
สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ ๒๒ - ๒๖
กันยายน ๒๕๖๗ ของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายนภินทร ศรีสรรพางค์) เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระดับทวิภาคีไทย - จีน ซึ่งมีกิจกรรมที่สำคัญ
เช่น (๑) พบหารือกับรองประธานสภาผู้แทนประชาชนเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง
(๒) เข้าร่วมพิธีเปิดงานแสดงสินค้าจีน-อาเซียน (CAEXPO) ครั้งที่ ๒๑
และเยี่ยมชมส่วนจัดแสดงสินค้า/บริการที่เกี่ยวข้อง และ (๓)
การเยี่ยมชมสวนโลจิสติกส์ พร้อมพบหารือกับประธานศูนย์แสดงสินค้าดีเด่นจีน-อาเซียน (China-ASEAN
Mercantile Exchange : CAMEX) ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
132 | พิธีสารฉบับที่สองเพื่อแก้ไขความตกลงเพื่อจัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียน - ออสเตรเลีย - นิวซีแลนด์ (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม 2567) | ปสส. | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
133 | ผลการประชุมระดับผู้นำกรอบความร่วมมือเอเชีย ครั้งที่ 3 | กต. | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
134 | ร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ภายในระยะเวลาที่กำหนด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษในช่วงเทศกาลปีใหม่ของปี พ.ศ. 2568) | คค. | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข ๗ และทางหลวงพิเศษหมายเลข
๙ ภายในระยะเวลาที่กำหนด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข
๗ และทางหลวงพิเศษหมายเลข ๙ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ของปี พ.ศ. ๒๕๖๘ ตั้งแต่เวลา ๐๐.๐๑
นาฬิกา ของวันพฤหัสบดีที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๖๗ ถึงเวลา ๒๔.๐๐ นาฬิกา ของวันพฤหัสบดีที่
๒ มกราคม ๒๕๖๘ เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรและอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการเดินทางบนทางหลวงพิเศษในช่วงเทศกาลดังกล่าว
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นควรกำหนดมาตรการหรือแนวทางในการบริหารจัดการจราจรและดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
โดยเฉพาะการกำชับให้ผู้ขับขี่ใช้อัตราความเร็วที่เหมาะสมกับโครงสร้างทางกายภาพของถนนและการบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด
รวมทั้งให้มีการบูรณาการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานภาครัฐกับเอกชน
และจัดทำระบบป้องกันอุบัติเหตุบนถนนและระบบแจ้งเตือนอุบัติเหตุ
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเดินทางของประชาชนให้เกิดความสะดวกรวดเร็วและมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
135 | รายงานสรุปผลการดำเนินงานในภาพรวมของทุนหมุนเวียน ประจำปีบัญชี 2565 | กค. | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
136 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดจำนวน เขตอำนาจ และวันเปิดทำการศาลแขวง ในจังหวัดร้อยเอ็ด พ.ศ. .... และร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้บทบัญญัติ มาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติให้นำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับในศาลจังหวัด พ.ศ. 2520 บังคับสำหรับคดีที่เกิดขึ้นในบางท้องที่ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | ศย. | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดจำนวน
เขตอำนาจ และวันเปิดทำการศาลแขวงในจังหวัดร้อยเอ็ด พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้มีศาลแขวงสุวรรณภูมิ ในจังหวัดร้อยเอ็ด
โดยมีเขตอำนาจในอำเภอเกษตรวิสัย อำเภอปทุมรัตต์ อำเภอพนมไพร อำเภอโพนทราย
อำเภอสุวรรณภูมิ และอำเภอหนองฮี และกำหนดให้เปิดทำการตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน พ.ศ.
๒๕๖๘ เป็นต้นไป และร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้บทบัญญัติ มาตรา ๓
แห่งพระราชบัญญัติให้นำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับในศาลจังหวัด พ.ศ.
๒๕๒๐ บังคับสำหรับคดีที่เกิดขึ้นในบางท้องที่ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้นำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับในศาลจังหวัด
สำหรับคดีอาญาที่อยู่ในอำนาจศาลแขวงซึ่งเกิดขึ้นเฉพาะในท้องที่อำเภอจตุรพักตรพิมาน
อำเภอจังหาร อำเภอเชียงขวัญ อำเภอทุ่งเขาหลวง อำเภอธวัชบุรี อำเภอโพธิ์ชัย
อำเภอโพนทอง อำเภอเมยวดี อำเภอเมืองร้อยเอ็ด อำเภอเมืองสรวง อำเภอศรีสมเด็จ
อำเภอเสลภูมิ อำเภอหนองพอก และอำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด รวม ๒ ฉบับ
ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้สำนักงานศาลยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงยุติธรรมและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ กระทรวงยุติธรรม เห็นว่าการเปิดทำการศาลดังกล่าว ควรให้มีการเตรียมความพร้อมและการบริหารจัดการเพื่อรองรับทั้งด้านบุคลากร
งบประมาณ อาคารสถานที่ และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมถึงด้านอื่น ๆ
ที่เหมาะสมต่อการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อความโปร่งใส ความคุ้มค่า ประสิทธิภาพ
และประสิทธิผลของการอำนวยความยุติธรรมตามหลักนิติธรรม
ตลอดจนการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานอัยการสูงสุด
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กระทรวงยุติธรรม รวมถึงการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์
เพื่อสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชน หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนในเรื่องเขตอำนาจศาลและได้รับความสะดวกในการพิจารณาพิพากษาคดี |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
137 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดทรัพย์สินที่ได้รับยกเว้นจากการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค. | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดทรัพย์สินที่ได้รับยกเว้นจากการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมนิยามคำว่า “ทางรถไฟฟ้า”
ตามกฎกระทรวงกำหนดทรัพย์สินที่ได้รับยกเว้นจากการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
พ.ศ. ๒๕๖๒ โดยเพิ่มคำว่า “ห้องอุปกรณ์อาณัติสัญญาณภายในสถานี ห้องควบคุมระบบบังคับสัมพันธ์ภายในสถานี
ห้องอุปกรณ์สื่อสารภายในสถานี
และชานชาลาสถานีเฉพาะพื้นที่บริเวณที่ผู้โดยสารรอเพื่อขึ้นหรือลงจากรถไฟฟ้า”
เพื่อให้ได้รับยกเว้นจากการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามที่กำหนดในข้อ (๔)
ของกฎกระทรวงกำหนดทรัพย์สินที่ได้รับยกเว้นจากการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
พ.ศ. ๒๕๖๒
และเพื่อให้สอดคล้องกับการบรรเทาภาระภาษีให้แก่กิจการขนส่งทางรางประเภทอื่น
(ทางรถไฟ) ทั้งนี้ ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๘ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงการคลังพิจารณาหาแนวทางการเพิ่มรายได้ภาษีเพื่อให้การจัดเก็บภาษีเป็นไปตามเป้าหมายและเพื่อป้องกันความเสี่ยงทางด้านการคลังในอนาคต ให้รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามประเมินผลการดำเนินการ
และจัดทำรายงานเปรียบเทียบการสูญเสียรายได้ที่เกิดขึ้นจริงกับประมาณการที่ได้จัดทำมาในข้อเสนอครั้งนี้
ให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นประจำทุกสิ้นปีงบประมาณ ตามนัยของมาตรา ๒๗
แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
138 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทย เรื่อง กำหนดจำนวนคนต่างด้าวซึ่งจะมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร ประจำปี พ.ศ. .... | มท. | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
139 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดทรัพย์สินที่ได้รับยกเว้นจากการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (พื้นที่สีเขียว) | กค. | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดทรัพย์สินที่ได้รับยกเว้นจากการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
(ฉบับที่..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ที่ดินซึ่งปกคลุมด้วยพืชพรรณเป็นองค์ประกอบหลัก
และมีประโยชน์เพื่อสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศการดำรงชีวิต หรือคุณภาพชีวิตของประชาชนที่ไม่มีการใช้หาผลประโยชน์
(เว้นแต่เป็นการขายหรือการถ่ายโอนคาร์บอนเครดิต ซึ่งได้รับการรับรองจากคณะกรรมการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก)
ที่มีลักษณะ ดังนี้ ๑)
ได้รับการขึ้นทะเบียนโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (Thailand Voluntary Emission Reduction Program) ตามหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกกำหนด
เฉพาะโครงการที่สอดคล้องกับระเบียบวิธีลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจ (T-VER
Methodology) ประเภทป่าไม้และพื้นที่สีเขียว ๒) เป็นป่าชายเลนตามหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งประกาศกำหนด ๓)
เป็นพื้นที่สีเขียวตามหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังประกาศกำหนด
เป็นทรัพย์สินที่ได้รับยกเว้นการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามกฎกระทรวงกำหนดทรัพย์สินที่ได้รับยกเว้นจากการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
พ.ศ. ๒๕๖๒ ทั้งนี้ ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๘ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. มอบหมายกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเร่งรัดออกประกาศเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขการเป็นป่าชายเลนตามข้อ ๑๓ (ข) ของกฎกระทรวงกำหนดทรัพย์สินที่ได้รับยกเว้นจากการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
พ.ศ. ๒๕๖๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยร่างกฎกระทรวงกำหนดทรัพย์สินที่ได้รับยกเว้นจากการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อไป ๓. ให้กระทรวงการคลัง
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงบประมาณ เห็นควรที่กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะพิจารณาการกำหนดเงื่อนไขหลักเกณฑ์ภายหลังจากที่ร่างกฎกระทรวงดังกล่าวมีผลใช้บังคับ
เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. ๒๕๖๒
โดยคำนึงถึงการทำประโยชน์ว่าเป็นไปตามสมควรแก่สภาพหรือไม่
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บและลดการเหลื่อมล้ำ
ตลอดจนการสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับร่างกฎกระทรวงดังกล่าว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
140 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคให้แก่สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน)] | กค. | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
โดยให้หักลดหย่อนหรือรายจ่ายได้ ๒ เท่าของจำนวนเงินหรือทรัพย์สินที่บริจาค
สำหรับการบริจาคที่กระทำผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e - Donation) ของกรมสรรพากร
ให้แก่สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) และยกเว้นภาษีเงินได้
ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ สำหรับเงินได้ที่ได้รับจากการโอนทรัพย์สินหรือการขายสินค้า
หรือสำหรับการกระทำตราสารอันเนื่องมาจากการบริจาคให้แก่หน่วยงานดังกล่าว ตั้งแต่วันที่
๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๗ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๙ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้การยกเว้นภาษีดังกล่าว
ต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้แห่งชาติ (OKMD
National Knowledge Center) และศูนย์การเรียนรู้เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
(OKMD Sustainable Development Learning Center) สวนสาธารณะเบญจกิติ ซึ่งกำหนดเปิดให้บริการแก่ประชาชนในปี พ.ศ. ๒๕๖๙ เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ
๑๐ ปี แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. มอบหมายสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้
(องค์การมหาชน) ร่วมขับเคลื่อนและสร้างการรับรู้ และความเข้าใจมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคให้แก่สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้
(องค์การมหาชน)
รวมทั้งร่วมติดตามและประเมินประโยชน์ที่ได้รับจากมาตรการนี้และนำส่งข้อมูลดังกล่าวให้แก่กระทรวงการคลังเป็นรายปีจนสิ้นสุดมาตรการเพื่อประกอบการจัดทำรายงานเปรียบเทียบประโยชน์ที่ได้รับกับการสูญเสียรายได้ที่เกิดขึ้นจริงกับประมาณการตามมาตรา
๒๗ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ๓. ให้สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้
(องค์การมหาชน) รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นว่าการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับการบริจาคให้ สบร.
อาจจะเป็นกรณีตัวอย่างทำให้องค์การมหาชนอื่น ๆ ขอรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีในลักษณะเดียวกัน
และสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน)
ควรใช้ประโยชน์จากทรัพยากรและบุคลากรที่มีคุณภาพ โดยการเพิ่มประสิทธิภาพการหารายได้จากการขายสินค้าและบริการ
ควบคู่ไปกับการลดทอนรายจ่ายที่ไม่จำเป็นลง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|