ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 6226 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 20 จากข้อมูลทั้งหมด 124513 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 1 | ผลการพิจารณา เรื่อง ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร | วธ. | 11/11/2568 | ||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 2 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง ปัญหาและแนวทางการแก้ไขแบบยั่งยืนเกี่ยวกับการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ ของคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนสภาผู้แทนราษฎร | สผ. | 11/11/2568 | ||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 3 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (นายชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์ และนายวุฒิกร สติฐิต) | นร.04 | 11/11/2568 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี
จำนวน ๒ ราย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้ง
ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบด้วยแล้ว ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ ๑. นายชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์ ๒. นายวุฒิกร สติฐิต
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 4 | การปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ของรัฐ | ดศ. | 11/11/2568 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ของรัฐ
โดยมีหน้าที่และอำนาจคงเดิม ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๑
พฤศจิกายน ๒๕๖๘) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 5 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินและขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการค่าควบคุมงานก่อสร้างอาคารสำนักงานอัยการจังหวัดสิงห์บุรี พร้อมบ้านพักและสิ่งก่อสร้างประกอบ | อส. | 11/11/2568 | ||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 6 | การให้บริการประชาชนในการเข้าถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง | นร. | 11/11/2568 | ||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 7 | ขอความเห็นชอบการต่ออายุบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งออสเตรเลียว่าด้วยยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ (MoU SECA) | พณ. | 11/11/2568 | ||||||||||||||||||||||||
| 8 | การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวที่มีสถานะไม่ถูกต้องตามกฎหมาย สำหรับคนต่างด้าว 3 สัญชาติ (ลาว เมียนมา และเวียดนาม) | รง. | 11/11/2568 | ||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 9 | ขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2568 เรื่อง การชะลอการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างหรือเช่าใช้บริการระบบคลาวด์ (Cloud) | ดศ. | 11/11/2568 | ||||||||||||||||||||||||
| 10 | การติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและการให้ความช่วยเหลือดูแลประชาชน | นร. | 11/11/2568 | ||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 11 | รายงานผลการปฏิบัติงานและการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา | สว. | 04/11/2568 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานและการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเสนอ โดยมีสาระสำคัญ
ดังนี้ ๑. ผลการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ ณ สิ้นสุดปีงบประมาณ จำนวน ๒,๐๖๗.๙๘ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ
๙๒.๐๓ ซึ่งได้รับการจัดสรรงบฯ จำนวน ๒,๒๔๗.๐๑ ล้านบาท ๒. ผลการปฏิบัติงานตามตัวชี้วัดผลสำเร็จ
สามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมายที่กำหนดใน ๒ ยุทธศาสตร์ ได้แก่ (๑)
ยุทธศาสตร์ชาติที่ ๑ ด้านความมั่นคง เช่น การจัดโครงการ/กิจกรรมเพื่อเสริมสร้างความรู้
ความเข้าใจ และการมีส่วนร่วมของประชาชนต่อกิจกรรมทางการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
มีผลสำเร็จคิดเป็นร้อยละ ๑๐๐ (เป้าหมาย ร้อยละ ๙๐) และ (๒) ยุทธศาสตร์ชาติที่ ๖
ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ เช่น
โครงการตามแผนการปฏิบัติราชการประจำปีเป็นไปตามแผนที่กำหนด มีผลสำเร็จคิดเป็นร้อยละ
๙๗.๐๙ (เป้าหมาย ร้อยละ ๙๕) การสนับสนุนงานด้านการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมีผลสำเร็จคิดเป็นร้อยละ
๑๐๐ (เป้าหมาย ร้อยละ ๙๕)
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 12 | ร่างระเบียบคณะกรรมการกฤษฎีกา ว่าด้วยการจัดทำและพิจารณาร่างกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หรือประกาศ โดยกรรมการกฤษฎีกา พ.ศ. .... และร่างระเบียบคณะกรรมการกฤษฎีกา ว่าด้วยการรับปรึกษาให้ความเห็นทางกฎหมายของกรรมการกฤษฎีกา พ.ศ. .... จำนวน 2 ฉบับ | นร.09 | 04/11/2568 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างระเบียบคณะกรรมการกฤษฎีกา
ว่าด้วยการจัดทำและพิจารณาร่างกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หรือประกาศ
โดยกรรมการกฤษฎีกา พ.ศ. .... และร่างระเบียบคณะกรรมการกฤษฎีกา
ว่าด้วยการรับปรึกษาให้ความเห็นทางกฎหมายของกรรมการกฤษฎีกา พ.ศ. .... จำนวน ๒ ฉบับ
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยมีสาระสำคัญ
ดังนี้ ๑. ร่างระเบียบคณะกรรมการกฤษฎีกา ว่าด้วยการจัดทำและพิจารณาร่างกฎหมาย
กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หรือประกาศ โดยกรรมการกฤษฎีกา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกระเบียบคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าด้วยการจัดทำและพิจารณาร่างกฎหมาย
กฎ ระเบียบ ข้อบังคับหรือประกาศ โดยกรรมการกฤษฎีกา พ.ศ. ๒๕๒๒ โดยกำหนดหลักเกณฑ์และกระบวนการในการตรวจพิจารณาร่างกฎหมายของหน่วยงานของรัฐ
เช่น กำหนดกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาต้องตรวจพิจารณาร่างกฎหมาย กฎ ระเบียบ
ข้อบังคับหรือประกาศออกเป็นกลุ่มกรณีต่าง ๆ (กลุ่มกรณีทั่วไป
กรณีที่เป็นเรื่องไม่ซับซ้อน และกรณีจำเป็นเร่งด่วน) ตามความซับซ้อนและระดับความเร่งด่วนของการดำเนินงาน
กำหนดขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้เกี่ยวข้องในกระบวนการจัดทำร่างกฎหมายฯ
และกำหนดแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ของฝ่ายเลขานุการของกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับการจัดทำรายละเอียด
การวิเคราะห์ความจำเป็นในการมีกฎหมาย
การวิเคราะห์ผลการรับฟังความคิดเห็นและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคณะกรรมการกฤษฎีกา
พ.ศ. ๒๕๒๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย
พ.ศ. ๒๕๖๒ ๒. ร่างระเบียบคณะกรรมการกฤษฎีกา
ว่าด้วยการรับปรึกษาให้ความเห็นทางกฎหมายของกรรมการกฤษฎีกา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกระเบียบคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าด้วยการรับปรึกษาให้ความเห็นทางกฎหมายของกรรมการกฤษฎีกา
พ.ศ. ๒๕๒๒
โดยกำหนดหลักเกณฑ์และกระบวนการในการที่หน่วยงานของรัฐจะขอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความหรือวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายที่เกิดขึ้นจากการใช้บังคับกฎหมาย
เช่น กำหนดบุคคลที่กรรมการกฤษฎีกาจะพิจารณาให้ความเห็นทางกฎหมาย (คณะรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรี
รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานอื่นของรัฐ)
กำหนดเงื่อนไขการไม่รับพิจารณาให้ความเห็นทางกฎหมาย
(เรื่องที่ผลการพิจารณาจะไม่สามารถแก้ไขผลที่เกิดขึ้นหรือไม่เกิดประโยชน์ที่จะพิจารณาหรือเรื่องที่เป็นเรื่องนโยบาย)
และการเชิญผู้แทนหน่วยงานเจ้าของเรื่องหรือผู้เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงแถลงข้อเท็จจริงและให้ความคิดเห็นประกอบการพิจารณาให้ความเห็นทางกฎหมาย
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 13 | ขอความเห็นชอบต่อร่างบันทึกความร่วมมือ (MOC) ด้านการค้าข้าวระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐสิงคโปร์ | พณ. | 04/11/2568 | ||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 14 | คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 394/2568 | นร.04 | 04/11/2568 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่
๓๙๔/๒๕๖๘ เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ
และมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ
รองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย
และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๘ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 15 | ข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริต กรณีการจัดสรรที่ดินเพื่อประกอบกิจการอื่นที่เป็นการสนับสนุนหรือเกี่ยวเนื่องกับการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม | คณะกรรมการ ป.ป.ช. | 04/11/2568 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีติ ดังนี้ ๑. รับทราบข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริต
กรณีการจัดสรรที่ดินเพื่อประกอบกิจการอื่นที่เป็นการสนับสนุนหรือเกี่ยวเนื่องกับการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเสนอ
๒. มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักรับเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงมหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ได้ข้อยุติ
โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์สรุปผลการพิจารณา/ผลการดำเนินการ/ความเห็นในภาพรวม
แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน
นับจากวันที่ได้รับแจ้งจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 16 | ข้อเสนอแนะ เรื่อง การส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิของเด็ก กรณีการไว้ทรงผมของนักเรียน | กสม. | 04/11/2568 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบข้อเสนอแนะ เรื่อง
การส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิของเด็ก กรณีการไว้ทรงผมของนักเรียน
ตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเสนอ ๒.
มอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการเป็นหน่วยงานหลักรับเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอแนะดังกล่าว
โดยให้กระทรวงศึกษาธิการสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการดังกล่าวในภาพรวม
แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน
นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 17 | ข้อเสนอแนะกรณีสิทธิพลเมืองของบุคคลที่ถูกเพิ่มชื่อและรายการในทะเบียนบ้านกลาง | กสม. | 04/11/2568 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
รับทราบข้อเสนอแนะกรณีสิทธิพลเมืองของบุคคลที่ถูกเพิ่มชื่อและรายการในทะเบียนบ้านกลาง
ตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเสนอ ๒.
มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักรับเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอแนะดังกล่าว
โดยให้กระทรวงมหาดไทยสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการดังกล่าวในภาพรวม
แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 18 | (ร่าง) การมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด ฉบับที่ 2 (NDC 3.0) ของประเทศไทย | ทส. | 04/11/2568 | ||||||||||||||||||||||||
| 19 | ร่างถ้อยแถลงริยาดว่าด้วยอนาคตของการท่องเที่ยว (Riyadh Declaration on the Future of Tourism) | กก. | 04/11/2568 | ||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 20 | ขออนุมัติลงนามร่างสนธิสัญญาอาเซียนว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดน และการดำเนินการให้สนธิสัญญาอาเซียนว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดน มีผลใช้บังคับ | ยธ. | 04/11/2568 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างสนธิสัญญาอาเซียนว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดน
และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมลงนามในสนธิสัญญาอาเซียนว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดน
โดยมอบหมายกระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full powers) ให้แก่ผู้ลงนาม และให้กระทรวงยุติธรรมและกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการให้สนธิสัญญาฯ
มีผลใช้บังคับในโอกาสอันเหมาะสมตามแต่ที่จะตกลงไว้สนธิสัญญาฯ
โดยหลังจากที่รัฐสมาชิกอาเซียนลงนามสนธิสัญญาฯ แล้ว
กระทรวงยุติธรรมและกระทรวงการต่างประเทศจะดำเนินการแจงสำนักเลขาธิการอาเซียนว่า
ฝ่ายไทยได้เสร็จสิ้นการดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมายภายในเพื่อให้สนธิสัญญาฯ
มีผลใช้บังคับแล้ว โดยสนธิสัญญาฯ จะมีผลใช้บังคับ ๓๐ วัน นับจากวันที่รัฐสมาชิกอาเซียนอย่างน้อย
๖ รัฐ ได้แจ้งสำนักเลขาธิการอาเซียนว่ามีผลใช้บังคับแล้ว ทั้งนี้ เป็นไปตามข้อ ๒๙
วรรค ๒ ของสนธิสัญญาฯ โดยร่างสนธิสัญญาฯ มีวัตถุประสงค์
เนื้อหาสาระและหลักเกณฑ์ในการให้ความร่วมมือในการส่งผู้ร้ายข้ามแดนคล้ายคลึงกับสนธิสัญญาในเรื่องเดียวกันที่ไทยได้จัดทำกับประเทศต่าง
ๆ (เช่น ฮังการีและรัสเซีย) ซึ่งได้กำหนดเงื่อนไขและขั้นตอนในบทบัญญัติ รวม ๒๙ ข้อ
เช่น ๑) พันธกรณีในการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ๒) ความผิดที่ส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้ ๓)
หลักเกณฑ์ในการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ๔) เหตุสำหรับปฏิเสธไม่ส่งผู้ร้ายข้ามแดน ๕)
เหตุสำหรับการใช้ดุลยพินิจปฏิเสธการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างสนธิสัญญาฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
