ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1330 จากทั้งหมด 6222 หน้า แสดงรายการที่ 26581 - 26600 จากข้อมูลทั้งหมด 124426 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 26581 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิต (จำนวน 5 คน 1.นางสุดา วิศรุตพิชญ์ ฯลฯ) | กค | 22/07/2557 | |||||||||||||||
|
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิต จำนวน ๕ คน เนื่องจากกรรมการชุดเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระเมื่อวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ แล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ซึ่งเป็นวันที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติมีมติเป็นต้นไป ดังนี้
๑. ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ๑.๑ นางสุดา วิศรุตพิชญ์ ๑.๒ นายลวรณ แสงสนิท ๒. ด้านการเงินและการธนาคาร นายสรสิทธิ์ สุนทรเกศ ๓. ด้านคอมพิวเตอร์ นายเกียรติณรงค์ วงศ์น้อย ๔. ผู้ประกอบการด้านธุรกิจภาคเอกชน นายพรชัย ประเสริฐสินธนา
|
||||||||||||||||||
| 26582 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุุณวุฒิด้านการบริหารจัดการในคณะกรรมการสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (นายอัชพร จารุจินดา) | กษ | 22/07/2557 | |||||||||||||||
|
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติเห็นชอบแต่งตั้งนายอัชพร จารุจินดา เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารจัดการในคณะกรรมการสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง แทนนายเชาว์ อรรถมานะ ที่อายุครบ ๗๐ ปีบริบูรณ์ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ซึ่งเป็นวันที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติมีมติเป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||
| 26583 | ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้วันที่ 1 ตุลาคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นวันรัฐพิธีที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว | นร05 | 22/07/2557 | |||||||||||||||
|
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ ดังนี้
๑. คณะรักษาความสงบแห่งชาติสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้วันที่ ๑ ตุลาคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นวันรัฐพิธีที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และให้มีหมายกำหนดการเป็นประจำทุกปี เช่นเดียวกับวันที่ระลึกพระมหากษัตริย์รัชกาลอื่น และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีผู้แทนพระองค์ไปวางพวงมาลาถวายราชสักการะในการดังกล่าว ๒. อนุมัติตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ๒.๑ ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเชิญพระราชกระแสในเรื่องนี้ แจ้งให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐทราบ ๒.๒ กำหนดให้มีการวางพวงมาลาถวายราชสักการะในวันรัฐพิธีดังกล่าว ณ พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชวังสราญรมย์ กรุงเทพมหานคร โดยไม่ถือเป็นวันหยุดราชการ ๒.๓ ให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๕๓ (เรื่อง การกำหนดให้มีวันพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเป็นวันรัฐพิธี)
|
||||||||||||||||||
| 26584 | แต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นางรัชนี สุดจิตร์) | พม | 22/07/2557 | |||||||||||||||
|
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติอนุมัติแต่งตั้งนางรัชนี สุดจิตร์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ซึ่งเป็นวันที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติมีมติเป็นต้นไป ทั้งนี้ เมื่อมีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีแล้ว ให้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชการดังกล่าวพ้นจากตำแหน่งเดิม และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งใหม่ เพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
|
||||||||||||||||||
| 26585 | การบริหารโครงการลงทุนภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 | กค | 22/07/2557 | |||||||||||||||
|
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติการขยายระยะเวลาการดำเนินงานและการเบิกจ่ายเงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. ๒๕๕๒ (พ.ร.ก.) ภายหลังปีงบประมาณ ๒๕๕๖ ของกระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.น.จ.) สำนักงานอัยการสูงสุด กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงคมนาคม และสำนักงานศาลยุติธรรม จนกว่าโครงการจะแล้วเสร็จแต่ต้องไม่เกินปีงบประมาณ ๒๕๕๗ จำนวน ๓๒ โครงการ วงเงินรวม ๒,๓๐๔,๙๒๘,๐๙๐.๘๒ บาท ๑.๒ อนุมัติแนวทางเบิกจ่ายเงินกู้ พ.ร.ก. สำหรับโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ๒๕๕๕ ที่ไม่สามารถเบิกจ่ายเงินได้ภายในปีงบประมาณ ๒๕๕๖ โดยให้สามารถดำเนินการเบิกจ่ายเงิน พ.ร.ก. ได้จนกว่าโครงการจะแล้วเสร็จ แต่ต้องไม่เกินปีงบประมาณ ๒๕๕๗ ทั้งนี้ ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการที่ไม่สามารถดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ ๒๕๕๖ ชี้แจงเหตุผล ความจำเป็น และประมาณการเบิกจ่ายรายเดือน เพื่อให้สามารถดำเนินโครงการได้บรรลุตามวัตถุประสงค์ต่อคณะกรรมการกลั่นกรองและบริหารโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ๒๕๕๕ เพื่อพิจารณาอนุมัติและรายงานผลการพิจารณาต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ ๑.๓ อนุมัติการยกเลิกโครงการเงินกู้ พ.ร.ก. ของกระทรวงศึกษาธิการ และ ก.น.จ. รวม ๔ โครงการ วงเงินรวม ๕๐,๑๗๑,๓๕๘ บาท และนำวงเงินกู้ดังกล่าวรวมเป็นวงเงินเหลือจ่ายในสาขาเศรษฐกิจนั้น ๑.๔ อนุมัติการจัดสรรเงินสำรองจ่าย วงเงินรวม ๑๔,๔๔๓,๙๘๙.๕๒ บาท ให้แก่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และการประปาส่วนภูมิภาค ๒. ในส่วนของโครงการจัดหาเครื่องมือป้องกันการติดต่อสื่อสารที่ใช้กระทำความผิดภายในเรือนจำ ของกระทรวงยุติธรรม มอบหมายให้คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณโครงการดังกล่าวด้วย เนื่องจากโครงการดังกล่าวมีวงเงินลงทุนของโครงการเกิน ๑,๐๐๐ ล้านบาท ๓. ให้คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐไปกำกับติดตามร่วมกับกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณเพื่อเร่งรัดให้ส่วนราชการดำเนินการเบิกจ่ายเงินให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ ๒๕๕๗ โดยให้กระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณรวบรวมวงเงินเหลือจ่ายทั้งหมด ทั้งในส่วนของเงินงบประมาณ และเงินกู้โครงการภายใต้ พ.ร.ก. เสนอต่อคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐพิจารณาก่อนนำเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติพิจารณาว่าสมควรจะจัดสรรเงินเหลือจ่ายดังกล่าวไปใช้เพื่อสนับสนุนแผนงาน/โครงการที่มีความเร่งด่วนตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติอย่างไรต่อไป |
||||||||||||||||||
| 26586 | การเข้าร่วมเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย | กค | 22/07/2557 | |||||||||||||||
|
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ
๑. เห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบในหลักการให้มีการแสดงเจตนารมณ์ของประเทศไทยในการเข้าร่วมเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย (Asian Infrastructure Investment Bank : AIIB) เพื่อรักษาโอกาสให้ประเทศไทยสามารถมีส่วนร่วมในการกำหนดรายละเอียดการระดมเงินทุน การจัดสรรหุ้น สิทธิการออกเสียง โครงสร้างการบริหาร ธรรมาภิบาล ตลอดจนรายละเอียดสำคัญของบันทึกความเข้าใจและร่างความตกลงเพื่อการจัดตั้ง AIIB ๑.๒ มอบหมายกระทรวงการคลังเป็นผู้เจรจาจัดทำร่างบันทึกความเข้าใจและความตกลงเพื่อการจัดตั้ง AIIB โดยให้คำนึงถึงประโยชน์โดยรวมต่อประเทศไทยเป็นสำคัญ ๑.๓ เมื่อการยกร่างบันทึกความเข้าใจ และ/หรือ ความตกลงเพื่อการจัดตั้ง AIIB ดำเนินการแล้วเสร็จ ให้กระทรวงการคลังนำเสนอหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่งก่อนการลงนาม ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กระทรวงการคลังพิจารณาถึงความเหมาะสมของสัดส่วนการถือหุ้นและความพร้อมในการชำระค่าหุ้นของประเทศไทยให้รอบคอบ โดยคำนึงถึงการเป็นสมาชิกของประเทศไทยในกองทุนเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Infrastructure Fund : AIF) ที่ได้จัดตั้งขึ้นแล้วที่ประเทศมาเลเซีย และเห็นควรพิจารณาถึงการเชื่อมโยงกันในเชิงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) และ AIIB ซึ่งต่างมีวิสัยทัศน์และเป้าประสงค์ที่คล้ายคลึงกัน คือ การสนับสนุนด้านการเงินการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแก่ประเทศในภูมิภาคเอเชียที่ยังขาดแคลนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งรวมถึงประเทศเพื่อนบ้านของประเทศไทย ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการ และให้กระทรวงการคลังรายงานผลการดำเนินงานต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||
| 26587 | ขอขยายเวลาการดำเนินงานโครงการกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) ต่อไปจนกว่ากฎหมายใหม่จะแล้วเสร็จและมีผลบังคับใช้ | กค | 22/07/2557 | |||||||||||||||
|
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบขยายเวลาการดำเนินงานโครงการกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) ต่อไปในปีการศึกษา ๒๕๕๘ และในปีการศึกษาต่อ ๆ ไปจนกว่ากฎหมายใหม่จะแล้วเสร็จและมีผลบังคับใช้ และให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการทบทวนแนวคิดและหลักการของกองทุนเพื่อการศึกษาให้มีความเหมาะสมสอดคล้องกับการพัฒนาการศึกษาต่อไปโดยด่วน และควรปรับปรุงระบบการบริหารจัดการกองทุน เพิ่มช่องทางการชำระหนี้ที่หลากหลาย รวมทั้งจัดทำฐานข้อมูลให้ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน เพื่อใช้ในการกำกับติดตามการบริหารจัดการหนี้ นอกจากนี้ ควรสร้างจิตสำนึกให้กับผู้กู้มีความตระหนัก มีวินัยและความรับผิดชอบในการชำระหนี้คืนกองทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้โอกาสในการเข้าถึงการศึกษาสำหรับผู้กู้ยืมรายใหม่ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ให้ฝ่ายสังคมจิตวิทยาร่วมกับฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมพิจารณากำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหากองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาทั้งระบบให้มีประสิทธิภาพ โดยให้มีการกู้และส่งคืนเงินอย่างรัดกุมเหมาะสม รวมทั้งไม่เกิดปัญหาซ้ำซ้อนในการกู้ยืม และให้นำเรื่องนี้เสนอสภาปฏิรูปแห่งชาติด้านการศึกษาที่จะจัดตั้งขึ้นตามแนวทางปฏิรูปประเทศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติในระยะที่ ๒ เพื่อพิจารณาต่อไป |
||||||||||||||||||
| 26588 | ขออนุมัติหลักการการจัดสรรงบประมาณเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานของโรงเรียนเอกชนที่ค้างจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 | ศธ | 22/07/2557 | |||||||||||||||
|
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการการจัดสรรงบประมาณเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานของโรงเรียนเอกชนที่ค้างจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ที่มีเงินเหลือจ่ายก่อน จำนวน ๓๒๙,๔๕๓,๗๐๐ บาท (โอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณไปแล้ว จำนวน ๗๒,๐๑๘,๑๘๑ บาท) และอนุมัติในหลักการให้ใช้จ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๕๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ที่ได้รับอนุมัติจากกระทรวงการคลังให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีแล้ว สำหรับส่วนที่ขาดอยู่อีก จำนวน ๔๐๔,๕๗๖,๒๐๐ บาท ให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ และดำเนินการตามประกาศหรือคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ เงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ที่ต้องได้รับอนุมัติจากกระทรวงการคลังให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีและขยายเวลาเบิกจ่ายถึงวันทำการสุดท้ายของเดือนกันยายน ๒๕๕๗ ให้กระทรวงศึกษาธิการขอทำความตกลงกับกระทรวงการคลังอีกครั้งด้วย ๒. มอบหมายให้ฝ่ายสังคมจิตวิทยารับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดแนวทางการให้การอุดหนุนของรัฐในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานของโรงเรียนเอกชนในระยะยาว ให้มีความเหมาะสมและมีความยั่งยืน โดยไม่เป็นภาระด้านงบประมาณเกินควร และให้นำเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติต่อไป |
||||||||||||||||||
| 26589 | ขอกำหนดตำแหน่งเพิ่มใหม่ (เพื่อบรรจุพยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 - 2558) | สธ | 22/07/2557 | |||||||||||||||
|
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ
๑. อนุมัติจัดสรรตำแหน่งข้าราชการเพิ่มใหม่ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ สำหรับสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จำนวน ๙,๐๗๔ อัตรา ดังนี้ ๑.๑ เพื่อบรรจุพยาบาลและบุคลากรทางสาธารณสุข จำนวน ๗,๕๔๗ อัตรา ๑.๒ เพื่อบรรจุนักศึกษาแพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ และเภสัชกร ที่สำเร็จการศึกษาและได้รายงานตัวเข้าปฏิบัติราชการชดใช้ทุนแล้ว ในวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๗ จำนวน ๑,๕๒๗ อัตรา ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งรัดการดำเนินการตามเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐกำหนดไว้ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ (เรื่อง แนวทางการจัดอัตรากำลังและการบริหารจัดการในภารกิจบริการด้านสุขภาพ) รวมทั้งดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๕๖ [เรื่อง มาตรการบริหารและพัฒนากำลังคนภาครัฐ (พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๖๑)] ให้ครบถ้วน ก่อนขอรับการจัดสรรตำแหน่งข้าราชการเพิ่มใหม่เพื่อบรรจุพยาบาลและบุคลากรทางสาธารณสุข ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ต่อไป ๓. มอบหมายให้ฝ่ายสังคมจิตวิทยานำเรื่องการปรับโครงสร้างการบริหารจัดการระบบบริการสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุขในภาพรวม เสนอสภาปฏิรูปแห่งชาติด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมที่จะจัดตั้งขึ้นตามแนวทางการปฏิรูปประเทศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในระยะที่ ๒ เพื่อพิจารณาต่อไป |
||||||||||||||||||
| 26590 | การพิจารณาบำเหน็จความชอบประจำปี (กรณีพิเศษ) แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด | ยธ | 22/07/2557 | |||||||||||||||
|
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ
๑. เห็นชอบในหลักการการพิจารณาบำเหน็จความชอบประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ เป็นกรณีพิเศษ ให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้มีผลการปฏิบัติงานด้านยาเสพติดดีเด่นในอัตราไม่เกิน ๑๐,๖๓๖ คน ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ให้มีการพิจารณาบำเหน็จความชอบประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ เป็นกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้มีผลการปฏิบัติงานด้านยาเสพติดดีเด่น ไม่เกินร้อยละ ๒.๕ ของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดโดยตรง จำนวน ๓๕๐,๙๑๐ คน คิดเป็นอัตราไม่เกิน ๘,๗๗๒ คน ๑.๒ ให้มีการพิจารณาบำเหน็จความชอบประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ เป็นกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้มีผลการปฏิบัติงานด้านยาเสพติดดีเด่น ไม่เกินร้อยละ ๐.๕ ของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเกื้อกูลต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติด จำนวน ๓๗๒,๘๗๒ คน คิดเป็นอัตราไม่เกิน ๑,๘๖๔ คน ๒. สำหรับงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดังกล่าว ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีของส่วนราชการต้นสังกัดในโอกาสแรกก่อน หากไม่สามารถดำเนินการได้ ให้เบิกจ่ายจากงบกลาง รายการเงินเลื่อนเงินเดือนและเงินปรับวุฒิข้าราชการเป็นลำดับต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๓. มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดแนวทาง มาตรการ และหลักเกณฑ์ในการวัดผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ให้สะท้อนถึงผลสัมฤทธิ์ของการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านยาเสพติดที่มีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรมชัดเจน เพื่อใช้สำหรับการพิจารณาบำเหน็จความชอบประจำปี (กรณีพิเศษ) ในปีต่อ ๆ ไป เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์ของปัญหายาเสพติดในหลายพื้นที่ยังคงมีความรุนแรงอยู่อย่างต่อเนื่อง |
||||||||||||||||||
| 26591 | ขออนุมัติปรับกรอบวงเงินโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่ - บางซื่อ สำหรับเป็นค่าภาษีมูลค่าเพิ่มที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแหล่งเงินกู้จากต่างประเทศ เป็นเงินกู้ในประเทศของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย | คค | 22/07/2557 | |||||||||||||||
|
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ
๑. อนุมัติและเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติขยายกรอบวงเงินโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ สำหรับเป็นค่าภาษีมูลค่าเพิ่มที่เกิดจากการเปลี่ยนแหล่งเงินกู้จากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (Japan International Cooperation Agency : JICA) เป็นเงินกู้ในประเทศสำหรับค่าก่อสร้างงานโยธา จำนวน ๖๖๙,๒๘๗,๕๙๗ บาท มีผลทำให้กรอบวงเงินที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไว้เปลี่ยนแปลง จากเดิม ๓๖,๐๕๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท เพิ่มเป็นจำนวน ๓๖,๖๗๑,๒๘๗,๕๙๗ บาท ๑.๒ อนุมัติวงเงินสำหรับเป็นค่าภาษีมูลค่าเพิ่มของค่าจ้างที่ปรึกษาโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ จำนวน ๑๗,๘๕๔,๗๘๖.๘๘๐ บาท ซึ่งวงเงินที่เพิ่มขึ้นยังอยู่ภายในกรอบวงเงินเดิมที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไว้ ๑.๓ เห็นชอบให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กู้เงินในส่วนของวงเงินภาษีมูลค่าเพิ่มที่เพิ่มขึ้นและค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้อง ตามพระราชบัญญัติการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๔๓ มาตรา ๗๕ (๓) โดยกระทรวงการคลังจัดหาแหล่งเงินกู้ที่เหมาะสมและค้ำประกันเงินกู้ และสำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณตามความจำเป็นและเหมาะสมตามแผนการใช้จ่ายเงินจริง ๑.๔ อนุมัติในหลักการให้ขยายกรอบวงเงินโครงการสำหรับค่าภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราที่ประมวลรัษฎากรเรียกเก็บ กรณีกรมสรรพากรเปลี่ยนแปลงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มจากที่ประกาศไว้ในประมวลรัษฎากร โดยมิต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีก ๒. ให้ รฟม. ดำเนินการตามประกาศและคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ รวมทั้งปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วนด้วย ๓. ให้กระทรวงคมนาคม โดย รฟม. เร่งรัดการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ให้แล้วเสร็จและสามารถเปิดให้บริการแก่ประชาชนได้โดยเร็วภายในปี พ.ศ. ๒๕๕๙ ด้วย |
||||||||||||||||||
| 26592 | ขออนุมัติกู้เงินเพื่อนำไปชำระค่าน้ำมันเชื้อเพลิงและค่าเหมาซ่อมปีงบประมาณ 2558 ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ | คค | 22/07/2557 | |||||||||||||||
|
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กู้เงินนำไปชำระค่าน้ำมันเชื้อเพลิงและค่าเหมาซ่อมปีงบประมาณ ๒๕๕๘ จำนวน ๔,๔๐๑.๙๙๘ ล้านบาท (ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง จำนวน ๒,๘๗๐.๘๖๓ ล้านบาท และค่าเหมาซ่อม จำนวน ๑,๕๓๑.๑๓๕ ล้านบาท) เพื่อแก้ปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน และให้เกิดการประหยัดดอกเบี้ยจ่ายกรณีผิดนัดชำระหนี้ ๑.๒ ให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ รวมทั้งพิจารณาวิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่าง ๆ ในการกู้เงิน ตามที่ ขสมก. เสนอ ๒. ให้กระทรวงคมนาคม โดย ขสมก. รับความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการขอบรรจุแผนการกู้เงินไว้ในแผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ไปดำเนินการด้วย ๓. ให้หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจรับไปประสานงานกับกระทรวงคมนาคม โดย ขสมก. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งรัดการดำเนินการจัดซื้อรถโดยสารใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติให้แล้วเสร็จภายในปี ๒๕๕๘ โดยควรแบ่งการดำเนินการจัดซื้อเป็นระยะ ๆ สำหรับระยะแรกควรเป็นการจัดซื้อรถโดยสารที่ประกอบสำเร็จและพร้อมใช้งาน เพื่อให้สามารถนำมาให้บริการประชาชนทดแทนรถโดยสารเดิมได้ทันทีและจะช่วยให้ลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินรถของ ขสมก. ลงจากเดิมได้ด้วย ส่วนการจัดซื้อรถโดยสารในระยะต่อไปสามารถจัดซื้อรถโดยสารที่ประกอบภายในประเทศได้ ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐติดตามตรวจสอบการดำเนินการจัดซื้อดังกล่าวให้มีความถูกต้อง โปร่งใสและตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน รวมตลอดถึงการกำหนดคุณลักษณะของรถโดยสาร (specification) ให้เหมาะสมด้วย ๔. ให้กระทรวงคมนาคม โดย ขสมก. พิจารณาปรับเส้นทางเดินรถโดยสารทั้งระบบให้เหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยงในด้านปริมาณผู้โดยสาร ลดความซ้ำซ้อนของรถโดยสารบนถนนสายหลักสามารถปฏิรูประบบรถโดยสารสาธารณะในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลได้ รวมทั้งมีความเชื่อมโยงกับระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนสายต่าง ๆ ด้วย ๕. ให้กระทรวงคมนาคม โดย ขสมก. รับไปประสานงานกับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เพื่อเตรียมความพร้อมในเรื่องสถานีเติมก๊าซธรรมชาติให้เพียงพอต่อความต้องการของ ขสมก. เพื่อให้ ขสมก. สามารถให้บริการเดินรถได้อย่างต่อเนื่องและคล่องตัว |
||||||||||||||||||
| 26593 | การแจ้งบทบัญญัติที่ไทยพร้อมปฏิบัติภายใต้ความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกทางการค้าขององค์การการค้าโลก | พณ | 22/07/2557 | |||||||||||||||
|
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบบทบัญญัติที่พร้อมปฏิบัติได้ทันทีที่ความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกทางการค้า (Trade Facilitation Agreement : TFA) มีผลใช้บังคับ (Category A) และการแจ้งบทบัญญัติ Category A ดังกล่าว ต่อองค์การการค้าโลก ภายในวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการประสานงานอย่างต่อเนื่องกับหน่วยงานที่ต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับบทบัญญัติที่พร้อมปฏิบัติได้ทันทีที่ความตกลงฯ มีผลใช้บังคับ (Category A) เพื่อให้หน่วยงานสามารถเตรียมความพร้อมเสร็จได้ทันตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด รวมทั้งการเตรียมการที่ต่อเนื่องในการปฏิบัติตามบทบัญญัติที่ต้องการระยะเวลาปรับตัวก่อนการปฏิบัติ (Category B) และบทบัญญัติที่ต้องการความช่วยเหลือเพื่อสร้างความพร้อมในการปฏิบัติ (Category C) และควรเร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการไทยทราบถึงแนวปฏิบัติซึ่งมีข้อผูกพันภายใต้บทบัญญัติฯ เพื่อให้สามารถใช้เป็นแนวทางในการปรับตัวให้สอดคล้องกับเงื่อนไข ระเบียบข้อปฏิบัติ และมาตรฐานในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และข้อสังเกตของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับ Article 6 เรื่องระเบียบในการจัดเก็บค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า-ส่งออก ข้อ ๓ บทลงโทษ ข้อย่อย ๓.๔ ประเทศจะต้องแน่ใจว่าคงไว้ และ Article 10 เรื่องพิธีการศุลกากร การนำเข้า ส่งออก และการผ่านแดน ข้อ ๘ การคืนสินค้า (Rejected Goods) รวมทั้งข้อสังเกตของกระทรวงสาธารณสุขที่ไม่ควรกำหนดให้ผลิตภัณฑ์ยาสูบและการดำเนินธุรกิจยาสูบอยู่ในรายการสินค้าและบริการของข้อตกลงหรือกรอบการเจรจาการค้าฯ ใด ๆ ในทุกมิติ และหากผลิตภัณฑ์ยาสูบอยู่ในรายการสินค้าที่ต้องเจรจา ประเทศไทยไม่ควรยอมรับการกำหนดภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์ยาสูบให้เป็นร้อยละศูนย์ หรือลดอัตราภาษีพิเศษ ให้น้อยกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||
| 26594 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณเพื่อเช่ารถยนต์ไว้ใช้ในราชการ | นร51 | 22/07/2557 | |||||||||||||||
|
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ ดังนี้
๑. อนุมัติและให้ดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรอนุมัติในหลักการให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗-พ.ศ. ๒๕๖๒ รายการค่าเช่ารถยนต์ไว้ใช้ในราชการ จำนวน ๒๙๕ คัน ประกอบด้วย รถยนต์โดยสาร ๑๒ ที่นั่ง (ดีเซล) จำนวน ๘๗ คัน และรถยนต์บรรทุก ๑ ตัน (๔ ประตู, ดีเซล) จำนวน ๒๐๘ คัน ภายในกรอบวงเงินทั้งสิ้น ๓๔๖,๘๙๓,๕๘๐ บาท เป็นกรณีเฉพาะรายตามนัยมาตรา ๒๓ วรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ให้ กอ.รมน. ใช้จ่ายจากการปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ภายใต้แผนงานรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ ผลผลิตการรักษาความมั่นคงของรัฐ งบดำเนินงาน รายการค่าเช่าบ้าน จำนวน ๕,๖๘๖,๗๘๐ บาท มาดำเนินการ และขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป สำหรับส่วนที่เหลือให้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘-พ.ศ. ๒๕๖๒ และพิจารณาตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีรองรับตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ทั้งนี้ สำหรับอัตราค่าเช่ารถยนต์ที่สูงกว่าเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด เห็นสมควรให้เป็นไปตามความเห็นของกระทรวงการคลัง ๒. ให้ กอ.รมน. ขอทำความตกลงอัตราค่าเช่ารถยนต์กับกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณ ก่อนดำเนินการทำสัญญาเช่ารถยนต์ต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||
| 26595 | การขออนุมัติเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าวงเงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ | พณ | 22/07/2557 | |||||||||||||||
|
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเพิ่มวงเงินค่าเช่าอาคารสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองฟูกูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น จากเดิมปีละ ๑๕,๙๗๔,๙๐๔ เยน หรือเท่ากับ ๕,๑๑๒,๐๐๐ บาท เป็นปีละ ๑๖,๕๐๐,๐๐๐ เยน หรือเท่ากับ ๕,๒๘๐,๐๐๐ บาท คิดอัตราแลกเปลี่ยน ๑ เยน เท่ากับ ๐.๓๒ บาท หรือไม่เกินวงเงินตามสกุลเงินท้องถิ่นกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยน โดยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ให้พิจารณาใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ งบดำเนินงาน รายการค่าเช่าสำนักงานในต่างประเทศ ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำแนวทางตามมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติเมื่อวันที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๕๗ (เรื่อง โครงการบูรณาการงานบริการภาครัฐให้มีประสิทธิภาพ) ที่ให้ดำเนินการบูรณาการงานบริหารภาครัฐให้มีประสิทธิภาพ และสามารถให้บริการประชาชนได้อย่างเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว รวมทั้งนโยบายการใช้พื้นที่ร่วมกัน (One Roof Policy) ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๕๖ (เรื่อง ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ กรณีเช่าอาคารที่ทำการสำนักงานเศรษฐกิจการลงทุน ณ นครนิวยอร์ก) ไปพิจารณาดำเนินการในโอกาสต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||
| 26596 | ขอความเห็นชอบการจัดสรรงบประมาณสำหรับโครงการขยายผลการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม | ศธ | 22/07/2557 | |||||||||||||||
|
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบโครงการขยายผลการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม และอนุมัติกรอบวงเงินสำหรับการดำเนินโครงการฯ รวม ๑,๓๐๐,๖๒๔,๗๖๐ บาท ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ โดยมีรายการงบประมาณที่ต้องใช้ในการดำเนินการ ประกอบด้วย ๑.๑ การจัดหาและติดตั้งอุปกรณ์ในโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน ๑,๑๙๙,๖๒๒,๐๐๐ บาท ๑.๒ การจัดหาและติดตั้งอุปกรณ์ในโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน จำนวน ๒,๐๘๐,๐๐๐ บาท ๑.๓ การอบรมผู้บริหารและครูปลายทาง จำนวน ๖๑,๒๔๒,๗๖๐ บาท ๑.๔ การประชาสัมพันธ์ จำนวน ๖,๖๘๐,๐๐๐ บาท ๑.๕ การกำกับ นิเทศติดตาม และประเมินผล จำนวน ๓๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ๒. ให้กระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินโครงการฯ โดยยึดหลักความพร้อมและความจำเป็นในการปฏิบัติงานจริง โดยในส่วนของการจัดหาและติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ต้องมีความครบถ้วนให้สามารถดำเนินการได้อย่างเต็มศักยภาพ สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินการอบรมผู้บริหารและครูปลายทาง การประชาสัมพันธ์ และการกำกับนิเทศติดตามและประเมินผล ให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ที่ได้จัดสรรงบประมาณไว้แล้วไปดำเนินการตามความจำเป็นและเหมาะสมในโอกาสแรกก่อน ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ โดยให้กระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณก่อนดำเนินการต่อไป ๓. ให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของครูโรงเรียนปลายทาง ในการสร้างความรู้ ความเข้าใจในกระบวนการจัดการศึกษาด้วยเทคโนโลยีการศึกษาทางไกล มีศักยภาพในการปรับใช้ในการจัดการเรียนการสอนและการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับบริบทของสถานศึกษา การสร้างแรงจูงใจการเรียนรู้ของผู้เรียน การเป็นผู้ช่วยเหลือแนะแนวทางหรืออธิบายเพิ่มเติมประกอบการเรียนทางไกล รวมทั้งการสร้างความรู้ ความเข้าใจให้แก่ผู้เรียนถึงบทบาทและหน้าที่ของตนเองในการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีการศึกษาทางไกล ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||
| 26597 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้นิติบุคคลอื่นเป็นลูกหนี้ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้และกำหนดหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลการประกอบกิจการลูกหนี้ พ.ศ. .... | สลธ.คสช. | 22/07/2557 | |||||||||||||||
|
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้นิติบุคคลอื่นเป็นลูกหนี้ในกระบวนพิจารณาเกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้และกำหนดหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลการประกอบกิจการของลูกหนี้ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้มีกฎกระทรวงกำหนดให้สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนเป็นลูกหนี้ในการฟื้นฟูกิจการตามกฎหมายว่าด้วยล้มละลาย และให้กรมส่งเสริมสหกรณ์เป็นหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลการประกอบกิจการของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน ตามที่ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำกับดูแล และติดตามตรวจสอบการดำเนินกิจการของสหกรณ์ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สหกรณ์ดำเนินการโดยถูกต้อง เป็นไปตามข้อกฎหมายและระเบียบหลักเกณฑ์ที่ถูกต้อง และไม่เกิดปัญหาในการดำเนินกิจการอันจะส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้เป็นสมาชิกของสหกรณ์นั้น ๆ |
||||||||||||||||||
| 26598 | ร่างพระราชบัญญัติที่ควรเร่งรัดให้มีผลใช้บังคับตามนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (เพิ่มเติม) รวม 12 ฉบับ | สลธ.คสช. | 22/07/2557 | |||||||||||||||
|
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ
๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติที่ควรเร่งรัดให้มีผลใช้บังคับตามนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (เพิ่มเติม) รวม ๑๒ ฉบับ ตามที่ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ และเมื่อมีสภานิติบัญญัติแห่งชาติแล้วให้เสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชบัญญัติกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ พ.ศ. .... (กำหนดให้มีการจัดตั้งกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อเป็นแหล่งเงินทุนในการดำเนินการผลิตการพัฒนาและการเผยแพร่สื่อที่มีคุณภาพ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และพฤติกรรมที่ดีของเด็กและเยาวชน ส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีในครอบครัวและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาสื่อ) ๑.๒ ร่างพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. .... (ปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยสำหรับองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ พระบรมวงศานุวงศ์ ผู้แทนพระองค์ และพระราชอาคันตุกะ เพื่อบูรณาการการถวายความปลอดภัยของหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น กองทัพไทย กองทัพบก กองทัพอากาศ กองทัพเรือ และกำลังตำรวจจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น ให้มีความเป็นเอกภาพและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น) ๑.๓ ร่างพระราชบัญญัติการรับขนทางอากาศระหว่างประเทศ พ.ศ. .... (กำหนดหลักเกณฑ์การรับขนทางอากาศระหว่างประเทศ การรับขนทางอากาศภายในประเทศ การรับขนร่วมกัน การรับขนทางอากาศโดยบุคคลอื่นที่ไม่ใช้คู่สัญญา และการฟ้องเรียกค่าเสียหาย เพื่อให้สอดคล้องกับอนุสัญญาว่าด้วยการรวบรวมกฎเกณฑ์บางประการเกี่ยวกับการรับขนทางอากาศระหว่างประเทศ ค.ศ. ๑๙๙๙) ๑.๔ ร่างพระราชบัญญัติควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ พ.ศ. .... (ปรับปรุงพระราชบัญญัติควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ พ.ศ. ๒๕๒๕ โดยเพิ่มเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับการออกใบรับรองระบบการประกันคุณภาพอาหารสัตว์ และใบรับรองอื่นที่เกี่ยวข้องกับอาหารสัตว์ การเลิกกิจการและการโอนกิจการ รวมทั้งแก้ไขเพิ่มเติมในเรื่องการขออนุญาต การออกใบอนุญาต การออกใบรับรอง และการขึ้นทะเบียนอาหารสัตว์เพื่อประโยชน์ด้านคุณภาพอาหารสัตว์และคุ้มครองผู้บริโภค) ๑.๕ ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. .... (กำหนดมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยห้ามผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลเปิดเผยข้อมูลที่อยู่ในความครอบครองหรือความดูแลของตน เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลก่อน เพื่อป้องกันการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบจากข้อมูลส่วนบุคคล) ๑.๖ ร่างพระราชบัญญัติจัดรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. .... (ปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการจัดรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม โดยลดขั้นตอนการจัดรูปที่ดินให้สามารถดำเนินการได้เร็ว และส่งเสริมให้ท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการดำเนินการ รวมทั้งนำหลักการของกฎหมายว่าด้วยคันและคูน้ำมากำหนดไว้ในร่างพระราชบัญญัตินี้และยกเลิกกฎหมายดังกล่าว) ๑.๗ ร่างพระราชบัญญัติประกันชีวิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขโครงสร้างผู้ถือหุ้นเพื่อแก้ไขปัญหากรณีบริษัทประกันชีวิตให้สามารถหาผู้ถือหุ้นที่เป็นนิติบุคคลและมีลักษณะตามที่กฎหมายกำหนดได้ และกำหนดให้กองทุนชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ผู้เอาประกันภัยแทนบริษัทประกันชีวิตที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันภัย) ๑.๘ ร่างพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [สาระสำคัญทำนองเดียวกับร่างพระราชบัญญัติประกันชีวิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....] ๑.๙ ร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ยกฐานะสำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ขึ้นเป็นกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โดยให้เป็นหน่วยงานหลักในการดูแลรับผิดชอบงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ) ๑.๑๐ ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามสิ่งยั่วยุพฤติกรรมอันตราย พ.ศ. .... (กำหนดมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับวัตถุลามก เพื่อให้สอดคล้องกับอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก) ๑.๑๑ ร่างพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับมาตราชั่งตวงวัด ให้เหมาะสมและปรับปรุงให้ทันสมัย เหมาะสมกับสภาวการณ์และความจำเป็นทางเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งปรับปรุงอัตราค่าธรรมเนียมให้เหมาะสมยิ่งขึ้น) ๑.๑๒ ร่างพระราชบัญญัติสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ พ.ศ. .... (กำหนดการกำกับดูแลและส่งเสริมการดำเนินการต่อสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ของประเทศไทย ให้สอดคล้องกับหลักจรรยาบรรณและมาตรฐานของสากล เพื่อคุ้มครองชีวิตและสวัสดิภาพของสัตว์ ส่งเสริมความก้าวหน้าทางวิชาการของประเทศ ตลอดจนส่งเสริมนักวิจัยให้มีผลงานอันเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศต่อไป) ๒. ให้กระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ พ.ศ. .... ควรระบุสถานะกองทุนเป็นทุนหมุนเวียนและใช้จ่ายในการสนับสนุนการผลิตสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ร่างพระราชบัญญัติจัดรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. .... ควรเน้นกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนเพื่อให้เกิดการยอมรับและเกิดความยั่งยืนในการปฏิบัติงาน ร่างพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เนื่องจากธุรกิจประกันภัย อยู่ในบัญชีสาม ท้ายพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๔๒ กระทรวงการคลังควรประสานกระทรวงพาณิชย์ให้ทราบเพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปในทางเดียวกัน ร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ควรบูรณาการความร่วมมือระหว่างประเทศของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนของประเทศไทย โดยเฉพาะการให้ความช่วยเหลือการพัฒนาระหว่างประเทศทั้งในระดับทวิภาคี พหุภาคี และกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศต่าง ๆ เพื่อมุ่งเน้นบทบาทของประเทศไทยในการเป็นประเทศผู้ร่วมพัฒนา (Development Partner) ในการให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาและจะต้องสอดคล้องกับผลประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับด้วย และร่างพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ควรให้ความสำคัญกับเรื่องประสิทธิภาพและมาตรฐานของเครื่องชั่งตวงวัดเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรม และเร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการทราบถึงการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายในประเด็นที่เกี่ยวเนื่องกับหน่วยงานและผู้ประกอบการทั้งในเรื่องหลักเกณฑ์ ค่าธรรมเนียม การกำกับดูแลการประกอบธุรกิจชั่งตวงวัด การควบคุมเครื่องชั่งตวงวัด และสินค้าหีบห่อ เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ มีระยะเวลาในการเตรียมการ รวมถึงการสร้างความตระหนักรู้ถึงโทษทางการปกครองและอาญาเพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย |
||||||||||||||||||
| 26599 | การขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น แก่สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย | ศธ | 22/07/2557 | |||||||||||||||
|
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ ดังนี้
๑. อนุมัติและให้ดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่อนุมัติในหลักการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายในกรอบวงเงิน ๑๑๙,๑๕๓,๐๐๐ บาท ในลักษณะงบเงินอุดหนุน ให้แก่สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (Asian Institute of Technology : AIT) เพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระดับบัณฑิตศึกษาให้เกิดความต่อเนื่องในการดำเนินการและการบริหารจัดการของ AIT ตามแผนความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย ระยะที่ ๙ (พ.ศ. ๒๕๕๓-๒๕๕๗) โดยให้ขอทำความตกลงในรายละเอียดค่าใช้จ่ายของนักศึกษาทุนรุ่นปีการศึกษา ๒๕๕๖ และ ๒๕๕๗ ตามความจำเป็นและเหมาะสมกับสำนักงบประมาณตามระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒. สำหรับการสนับสนุนงบประมาณให้แก่สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ให้กระทรวงศึกษาธิการเสนอขอแปรญัตติร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ตามขั้นตอน ตามความจำเป็นและเหมาะสม และหากไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ก็ให้กระทรวงศึกษาธิการเสนอขอใช้จ่ายจากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นต่อไป |
||||||||||||||||||
| 26600 | การก่อสร้างสนามฟุตบอล สนามกีฬาภาคตะวันออก เมืองพัทยา ระยะที่ 2 | มท | 22/07/2557 | |||||||||||||||
|
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติอนุมัติและให้ดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้
๑. ให้ขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการก่อสร้างสนามฟุตบอล สนามกีฬาภาคตะวันออก เมืองพัทยา ระยะที่ ๒ จากปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓-พ.ศ. ๒๕๕๗ เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓-พ.ศ. ๒๕๖๐ เพื่อให้สอดคล้องกับระยะเวลาในการดำเนินโครงการฯ ตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการดำเนินงานก่อสร้างสนามฟุตบอล สนามกีฬาภาคตะวันออก เมืองพัทยา ระยะที่ ๒ ระหว่างเมืองพัทยากับกองทัพบก โดยกองทัพภาคที่ ๑ เมื่อวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๗ โดยขอทำความตกลงรายละเอียดกับสำนักงบประมาณตามระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒. สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการฯ สำนักงบประมาณได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓-พ.ศ. ๒๕๕๔ ให้แล้ว จำนวน ๖๘,๓๔๖,๓๐๐ บาท และได้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ไว้แล้ว จำนวน ๙๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท สำหรับส่วนที่เหลืออีก จำนวน ๓๗๘,๙๕๓,๗๐๐ บาท ให้เสนอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป |
||||||||||||||||||
.....
