ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 19 จากทั้งหมด 102 หน้า แสดงรายการที่ 361 - 380 จากข้อมูลทั้งหมด 2031 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 361 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สธ. | 01/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรม
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบอนุญาตสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรม
ตามที่กระทรวงสาธารสุขเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 362 | ขอผ่อนผันยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเพื่อการขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าชายเลนขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล ท้องที่ตำบลคลองขุด อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างถนนสายบ้านเขาจีน-บ้านโคกพยอม ตำบลคลองขุด อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล | มท. | 01/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติผ่อนผันยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเพื่อการขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าชายเลนขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล
ท้องที่ตำบลคลองขุด อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล
เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างถนนสายบ้านเขาจีน-บ้านโคกพยอม ตำบลคลองขุด
อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล จำนวน ๓ ฉบับ ได้แก่ มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๓
กรกฎาคม ๒๕๓๔ (เรื่อง
รายงานการศึกษาสถานภาพปัจจุบันของป่าไม้ชายเลนและปะการังของประเทศ) มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๒ สิงหาคม ๒๕๔๓ (เรื่อง มติคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ เรื่อง
การแก้ไขปัญหาการจัดการพื้นที่ป่าชายเลน) และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๗ ตุลาคม
๒๕๔๓ (เรื่อง มติคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ ครั้งที่ ๓/๒๕๔๓ เรื่อง
การแก้ปัญหาการจัดการพื้นที่ป่าชายเลน) ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
โดยให้กระทรวงมหาดไทย (องค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล)
ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๓๐ (เรื่อง
การจำแนกการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ป่าชายเลน ประเทศไทย) ด้วย ทั้งนี้
ให้กระทรวงมหาดไทย (องค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล)
รับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เช่น
ควรให้หน่วยงานดำเนินการตามมาตรา ๖๒ “ห้ามมิให้ผู้ใดทำการแก้ไขเปลี่ยนแปลงที่จับสัตว์น้ำที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน
ให้ผิดไปจากสภาพที่เป็นอยู่เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากพนักงานเจ้าหน้าที่”
เพื่อให้การพัฒนาโครงการถูกต้องตามบทบัญญัติกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
หากมีการดำเนินการใด ๆ ในแม่น้ำ ลำคลอง บึง อ่างเก็บน้ำ ทะเลสาบทะเล
หรือบนชายหาดของทะเลต้องดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย
พระพุทธศักราช ๒๕๕๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และขอให้ปฏิบัติตามมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม
รวมทั้งปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด
ควรให้เทศบาลตำบลคลองขุดเร่งดำเนินโครงการฯ
ตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
โดยให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมรวมทั้งมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด
พร้อมทั้งจัดทำและเสนอรายงานผลการปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดไว้ในรายงาน EIA ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป โดยให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้อง ครบถ้วน อย่างเคร่งครัดต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
| 363 | ขออนุมัติยกเว้นการปฏิบัติตามข้อ 20 แห่งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยบำเหน็จความชอบสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2550 | ตช. | 01/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติให้ยกเว้นการปฏิบัติตามข้อ
๒๐ แห่งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยบำเหน็จความชอบสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. ๒๕๕๐
ซึ่งเป็นการดำเนินการตามแนวทางคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดได้วางไว้โดยมีปัญหาข้อขัดแย้งและข้อเท็จจริง
ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ ๒.
ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
ที่เห็นว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องย่อมต้องมีหน้าที่ดำเนินการให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ
เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีด้วย
และในขณะที่ยังมิได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าว
สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็คงยังมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามข้อ ๒๐ แห่งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ ที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งมีผลใช้บังคับแล้วเมื่อวันที่
๑๗ ตุลาคม ๒๕๖๕ มาตรา ๗๗ ได้กำหนดหลักเกณฑ์การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ
ในแต่ละระดับตำแหน่งไว้อย่างชัดเจน
โดยกำหนดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งหรือเคยดำรงตำแหน่ง
เพื่อใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้น และมาตรา ๗๗
วรรคสอง กำหนดให้การนับระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง ให้นับระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งจริง
โดยมิให้นับระยะเวลาทวีคูณ
จึงเป็นกรณีที่มีกฎหมายเฉพาะกำหนดหลักเกณฑ์การมิให้ระยะเวลาทวีคูณไว้เป็นการเฉพาะแล้ว
ดังนั้น หากคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ยกเว้นการปฏิบัติตามข้อ ๒๐ ของระเบียบฯ
และได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีแล้ว
ในอนาคตเพื่อให้ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ
มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับกฎหมายที่ใช้บังคับในปัจจุบัน เห็นควรให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาความเหมาะสมในการแก้ไขระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ
ดังกล่าว ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 364 | ความก้าวหน้าของยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ ณ เดือนกันยายน 2565 | นร.11 สศช | 01/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความก้าวหน้าของยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ
ณ เดือนกันยายน ๒๕๖๕ ซึ่งมีผลการดำเนินงานที่สำคัญ เช่น (๑)
ความก้าวหน้ายุทธศาสตร์ชาติและการขับเคลื่อนแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (๒)
ความก้าวหน้าการปฏิรูปประเทศ (๓) การติดตาม การตรวจสอบ
และการประเมินผลการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ และ (๔)
ประเด็นที่ควรเร่งรัดเพื่อการบรรลุเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติ
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจสังคมแห่งชาติ
ในฐานะสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะกรรมการปฏิรูปประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 365 | ร่างแถลงการณ์ร่วมของการประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวกรอบ ACMECS ครั้งที่ 5 | กก. | 01/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมของการประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวกรอบ
ACMECS ครั้งที่ ๕ (Joint
Statement of the 5th Meeting of ACMECS Tourism Minister) และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาร่วมรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมฯ
โดยร่างแถลงการณ์ร่วมฯ เป็นการแสดงเจตนารมณ์ของประเทศสมาชิก ACMECS ในการส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวร่วมกัน ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ
และหากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์ร่วมฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว
ทั้งนี้ ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารับข้อสังเกตของกระทรวงการต่างประเทศในประเด็นที่เกี่ยวข้องที่จะต้องดำเนินการตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
มาตรา ๑๗๘ หรือไม่ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้ ๓.
ให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นหน่วยงานหลักประสานการดำเนินการร่วมกับกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งรัดการดำเนินการ
ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายดอน ปรมัตถ์วินัย)
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 366 | ผลการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (JTC) ไทย-มองโกเลีย ครั้งที่ 1 รวมทั้งดำเนินกิจกรรมส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง | พณ. | 01/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า
(JTC) ไทย-มองโกเลีย ครั้งที่ ๑
รวมทั้งการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง ในวันที่ ๕-๖
กันยายน ๒๕๖๕ ณ กรุงอูลานบาตาร์ ประเทศมองโกเลีย และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามผลการประชุมฯ
เพื่อให้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับมองโกเลียเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ตามตารางติดตามผลการประชุมฯ
รวมทั้งดำเนินกิจกรรมส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง
ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.
สรุปผลการประชุมฯ เช่น (๑)
การค้าระหว่างไทยและมองโกเลียมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องจาก ๓๕.๕๘
ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี ๒๕๖๐ เป็น ๕๓.๙๔ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี ๒๕๖๔
เพิ่มขึ้นร้อยละ ๕๑.๖๐ และตั้งเป้าหมายการค้าระหว่างกันที่ ๑๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ภายในปี ๒๕๗๐ (๒) การส่งเสริมการค้าและการลงทุน เช่น
การจัดกิจกรรมจับคู่นักลงทุนระหว่างไทยกับมองโกเลียในสาขาที่ทั้งสองฝ่ายมีศักยภาพร่วมกัน
(๓)
ไทยขอให้มองโกเลียเร่งพิจารณาร่างความตกลงว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุน
และ (๔) ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องในการดำเนินความร่วมมือด้านต่าง
ๆ ได้แก่ เกษตร การท่องเที่ยว การขนส่งและโลจิสติกส์ และความร่วมมือทางวิชาการ ๒. การดำเนินกิจกรรมส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ
ไทยได้จัดกิจกรรมสร้างเครือข่ายธุรกิจระหว่างนักธุรกิจมองโกเลียกับภาครัฐและเอกชนไทย
รวมถึงนักธุรกิจไทยที่ลงทุนในมองโกเลียเพื่อหารือเกี่ยวกับการขยายการค้าและการลงทุนระหว่างกัน |
|||||||||||||||||||||||||||
| 367 | รัฐบาลสมาพันธรัฐสวิสเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย (นายเปโดร สวาห์เลน) | กต. | 01/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายเปโดร สวาห์เลน (Mr. Pedro Zwahlen)
ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทยคนใหม่
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นางเฮเลเนอ บุดลีเกอร์ อาร์ทิเอดา (Mrs.
Helene Budliger Artieda) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 368 | ขอความเห็นชอบต่อการรับรองร่างแนวทางอาเซียนว่าด้วยการให้คำปรึกษาและการตรวจหาเชื้อเอชไอวีในสถานประกอบการ และร่างแผนงานคณะกรรมการตรวจแรงงานอาเซียน พ.ศ. 2565 - 2573 | รง. | 25/10/2565 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างแนวทางอาเซียนว่าด้วยการให้คำปรึกษาและการตรวจหาเชื้อเอชไอวีในสถานประกอบการ
(ASEAN Guidelines on HIV Counselling and
Testing in the Workplace) และร่างแผนงานคณะกรรมการตรวจแรงงานอาเซียน
พ.ศ. ๒๕๖๕-๒๕๗๓ [ASEAN Labour Inspection Committee (ALICOM) Work Plan
2022-2030] และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานลงนามในหนังสือถึงสำนักเลขาธิการอาเซียน
เพื่อรับรองร่างเอกสารทั้งสองฉบับ โดยร่างแนวทางอาเซียนฯ และร่างแผนงานคณะกรรมการฯ
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดแนวทางการบริหารจัดการการติดเชื้อเอชไอวีในสถานประกอบการ
และการกำหนดแผนงานสำหรับคณะกรรมการตรวจแรงงานอาเซียนในการพัฒนาสมรรถนะของพนักงานตรวจแรงงาน
ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารทั้งสองฉบับในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงแรงงานดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 369 | ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งเครือรัฐออสเตรเลียในการจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ | ยธ. | 25/10/2565 | ||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 370 | แผนปฏิบัติการร่วมว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างไทยกับออสเตรเลีย ค.ศ. 2022-2025 | กต. | 25/10/2565 | ||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 371 | โครงการความร่วมมือด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระหว่างอาเซียน-เยอรมัน (ASEAN-German Climate Action Programme) | ทส. | 25/10/2565 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างหนังสือแลกเปลี่ยนระหว่างเลขาธิการอาเซียนกับเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีประจำอาเซียน
โครงการความร่วมมือด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระหว่างอาเซียน-เยอรมัน (ASEAN-German Climate Action Programme)
และเห็นชอบให้เลขาธิการอาเซียนเป็นผู้ลงนามในร่างหนังสือแลกเปลี่ยนฯ รวมทั้งมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศประสานแจ้งผลการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีให้กับสำนักเลขาธิการอาเซียนต่อไป
โดยโครงการฯ
มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรและองค์กรด้านนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในภูมิภาคอาเซียน
ยกระดับบทบาทของอาเซียนในเวทีระหว่างประเทศและส่งเสริมความร่วมมือด้านนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระดับประเทศและระดับภูมิภาค
เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานตามเป้าหมายการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด (Nationally
Determined Contributions) ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 372 | การปรับขยายเพดานอัตราเงินเดือนขั้นสูงสุดของการท่าเรือแห่งประเทศไทย | คค. | 25/10/2565 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับขยายเพดานอัตราเงินเดือนขั้นสูงสุดของการท่าเรือแห่งประเทศไทย
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ (๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๕) ดังนี้ ๑)
ระดับ ๑๖ ตำแหน่งรองผู้อำนวยการ จากอัตรา ๑๑๓,๕๒๐ บาท เป็นอัตรา ๑๔๒,๘๓๐ บาท ๒) ตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการ ๑๐๔,๓๑๐ บาท
เป็นอัตรา ๑๓๓,๗๗๐ บาท และ ๓) ตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่าย
จากอัตรา ๙๕,๘๑๐ บาท เป็นอัตรา ๑๒๔,๗๗๐
บาท ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้กระทรวงคมนาคม
(การท่าเรือแห่งประเทศไทย) รับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงาน ก.พ.ร. เช่น
การท่าเรือแห่งประเทศไทยควรคำนึงถึงประเด็นความคุ้มค่า ต้นทุน และผลประโยชน์
เสถียรภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
ตลอดจนความยั่งยืนทางการคลังของรัฐประกอบการพิจารณาเรื่องดังกล่าว
ควรพิจารณาค่าใช้จ่ายบุคลากรให้มีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ
และควรบริหารค่าใช้จ่ายด้วยความรอบคอบโดยเฉพาะการปรับขึ้นอัตราเงินเดือนควรสะท้อนกับผลการปฏิบัติงานได้ชัดเจน
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 373 | การจัดทำร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านไปรษณีย์ โทรคมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และเทคโนโลยีดิจิทัล ระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งราชอาณาจักรไทย และกระทรวงเทคโนโลยีและการสื่อสารแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว | ดศ. | 25/10/2565 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านไปรษณีย์
โทรคมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และเทคโนโลยีดิจิทัล
ระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งราชอาณาจักรไทย
และกระทรวงเทคโนโลยีและการสื่อสารแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
และอนุมัติให้มีการลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ
รวมทั้งอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
หรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมมอบหมาย
เป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีสาระสำคัญเป็นการส่งเสริมความร่วมมือด้านไปรษณีย์
โทรคมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศ และเทคโนโลยีดิจิทัลระหว่างสองกระทรวง
โดยกำหนดรูปแบบความร่วมมือในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การแลกเปลี่ยนข้อมูล
การแลกเปลี่ยนการเยือนของเจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญ ตลอดจนการจัดนิทรรศการ
การประชุมเชิงปฏิบัติการ และการสัมมนา ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
และให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศในประเด็นที่เกี่ยวข้องที่จะต้องดำเนินการตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
มาตรา ๑๗๘ หรือไม่ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 374 | รายงานการโอนงบประมาณรายจ่ายตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 มาตรา 51 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 | นร.07 | 25/10/2565 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการโอนงบประมาณรายจ่ายตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๕๑ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕
ในระหว่างวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔-๓๐ กันยายน ๒๕๖๕ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
และให้รายงานต่อรัฐสภาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 375 | การเป็นเจ้าภาพการประชุมรัฐมนตรีด้านการศึกษาอาเซียน ครั้งที่ 13 และการประชุมที่เกี่ยวข้องระหว่างปี พ.ศ. 2567-2568 และการรับรองปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของระบบการศึกษาในอาเซียน | ศธ. | 25/10/2565 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๑) เห็นชอบให้ประเทศไทย โดยกระทรวงศึกษาธิการ เป็นเจ้าภาพและประธานการประชุมรัฐมนตรีด้านการศึกษาอาเซียน
ครั้งที่ ๑๓ และการประชุมที่เกี่ยวข้องระหว่างปี ๒๕๖๗-๒๕๖๘ (๒)
เห็นชอบร่างปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของระบบการศึกษาในอาเซียน
(Declaration on the Digital Transformation of
Education Systems In ASEAN) และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายรับรองร่างปฏิญญาอาเซียนฯ โดยร่างปฏิญญาอาเซียนฯ
มีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนในการส่งเสริมความร่วมมือด้านการศึกษาในบริบทที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดิจิทัล
(๓) อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ในฐานะประธานคณะมนตรีประชาสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน [ASEAN Socio-Cultural
Community Council (ASCC)] หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายร่วมรับรองร่างปฏิญญาอาเซียนฯ
ในการประชุมคณะมนตรี ASCC ในเดือนตุลาคม ๒๕๖๕ และ (๔)
อนุมัติให้นายกรัฐมนตรีหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายรับรอง (adoption) ร่างปฏิญญาอาเซียนฯ
ร่วมกับผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ ๔๐ และ ๔๑
ในวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
และหากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างปฏิญญาอาเซียนฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว
ทั้งนี้ ให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของสำนักงบประมาณและข้อเสนอแนะของกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายเพื่อเป็นเจ้าภาพการประชุมฯ
ซึ่งอยู่ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ เห็นควรให้กระทรวงศึกษาธิการ
โดยสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
พร้อมรายละเอียดค่าใช้จ่ายให้ชัดเจน
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสม ตามขั้นตอนต่อไป
และในการดำเนินงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามปฏิญญาอาเซียนฯ
ควรคำนึงถึงการวางระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีดิจิทัลที่ครอบคลุมและทั่วถึงในทุกพื้นที่ของประเทศเพื่อให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึงการเรียนรู้ได้อย่างเท่าเทียมและได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
| 376 | การประเมินการปฏิบัติตามกฎอนามัยระหว่างประเทศโดยผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลกของประเทศไทย ครั้งที่สอง ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม-4 พฤศจิกายน 2565 | สธ. | 25/10/2565 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการประเมินการปฏิบัติตามกฎอนามัยระหว่างประเทศโดยผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลกของประเทศไทย
ครั้งที่สอง ระหว่างวันที่ ๓๑ ตุลาคม-๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๕
มีสาระสำคัญที่ครอบคลุมที่อยู่ในอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบของกรมต่าง ๆ
เป็นจำนวนมาก ในการปฏิบัติงาน และการรายงานประจำปีตามมาตรา ๕๔ (๑)
ของกฎอนามัยระหว่างประเทศฯ รวมทั้งการขอรับการประเมินจากองค์การอนามัยโลกในทุก ๕
ปี โดยการประเมินครั้งที่ ๒ นี้ ประเทศไทยจะได้รับการประเมิน โดยใช้คู่มือการประเมินขององค์การอนามัยโลกฉบับปรับปรุงใหม่
ครั้งที่สาม ประกอบด้วยตัวชี้วัดต่าง ๆ ตามประเด็นทางเทคนิค ๑๙ ด้าน ซึ่งจัดเป็น ๔
กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มป้องกัน (P) ๘
ด้าน กลุ่มตรวจจับ (D) กลุ่มตอบโต้ (R) ๕ ด้าน และกลุ่มเฉพาะภาวะอันตราย ๓ ด้าน โดยข้อเสนอแนะจากการประเมินจะเป็นแนวทางในการพัฒนาสมรรถนะตามข้อกำหนดของกฎอนามัยระหว่างประเทศของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในด้านต่าง
ๆ ให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่ง ๆ ขึ้นไป ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ |
|||||||||||||||||||||||||||
| 377 | การแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม แทนกรรมการอื่นเดิมที่พ้นจากตำแหน่งและแต่งตั้งเพิ่มเติม (1. นายปิยกร อภิบาลศรี ฯลฯ จำนวน 4 ราย) | สธ. | 25/10/2565 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม จำนวน ๔ คน แทนกรรมการอื่นเดิมที่พ้นจากตำแหน่งและแต่งตั้งเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๕) เป็นต้นไป
โดยผู้ที่ได้รับแต่งตั้งแทนลำดับที่ ๑-๓
อยู่ในตำแหน่งได้เพียงเท่ากำหนดเวลาของผู้ซึ่งตนแทน ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
ดังนี้ ๑. นายปิยกร อภิบาลศรี (ผู้แทนกระทรวงการคลัง) ๒. นายวินัย วนานุกูล ๓. นางสาวจรสพร เฉลิมเตียรณ ๔. นางพรอนงค์ บุษราตระกูล
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 378 | การรับรองเอกสารสำคัญ 2 ฉบับ ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 40 และ 41 | กก. | 25/10/2565 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบต่อผลการศึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับการดำเนินการตามข้อตกลงยอมรับร่วมกันในคุณสมบัติของบุคลากรวิชาชีพท่องเที่ยวอาเซียน
และร่างกรอบการดำเนินงานของอาเซียนด้านการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (โควิด-๑๙) มีสาระสำคัญกล่าวถึงวิสัยทัศน์ระยะยาว
และการระบุเป้าหมายการดำเนินงานที่ครอบคลุม
รวมถึงเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
เพื่อส่งเสริมให้อาเซียนเป็นภูมิภาคที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยั่งยืนและมีคุณภาพส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ
สวัสดิภาพ รวมทั้งการมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่น และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาให้การรองรับผลการศึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับคุณสมบัติบุคลากรวิชาชีพท่องเที่ยวอาเซียนและร่างกรอบการดำเนินงานของอาเซียนด้านการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (โควิด-๑๙) โดยการแจ้งเวียน (ad-referendum) ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ
ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างกรอบการดำเนินงานของอาเซียนด้านการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 379 | ขออนุมัติจ่ายเงินค่าขนย้าย (ค่าที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ) เป็นกรณีพิเศษให้แก่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการฝายห้วยหลวง จังหวัดอุดรธานี | กษ. | 25/10/2565 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เลื่อนการพิจารณาเรื่อง ขออนุมัติจ่ายเงินค่าขนย้าย
(ค่าที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ)
เป็นกรณีพิเศษให้แก่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการฝายห้วยหลวง
จังหวัดอุดรธานี ออกไปก่อน ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 380 | ผลการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ประจำปี 2565 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง | กค. | 25/10/2565 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ
ประจำปี ๒๕๖๕ และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ในระหว่างวันที่ ๑๐-๑๖ ตุลาคม ๒๕๖๕
ณ กรุงวิชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา
|
|||||||||||||||||||||||||||
